mobile-menu
search icon mobile
search on header

<p>

จำนวนผู้เข้าชม 21,065,412
</p>

ผู้พิการจากอุบัติเหตุใช้รถใช้ถนน สามารถยื่นเรื่องขอรับจัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ ตั้งแต่ 1 พ.ย. – 29 ธ.ค. 66 จริงหรือ?

จากที่มีข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องผู้พิการจากอุบัติเหตุใช้รถใช้ถนน สามารถยื่นเรื่องขอรับจัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ ตั้งแต่ 1 พ.ย. – 29 ธ.ค. 66 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลจริง

รัฐบาลโดยกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เปิดรับคำขอรับจัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ เนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นการจัดสรรเงินสำหรับเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ที่พิการเนื่องจากประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน (ฟรี) โดยคุณสมบัติผู้ยื่นคำขอต้องเป็นผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนนที่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนหรือหน่วยงานอื่น หรือเคยได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนหรือหน่วยงานอื่นมาแล้วเกินกว่า 3 ปี นับถึงวันที่ยื่นคำขอ เว้นแต่เป็นอุปกรณ์คนละประเภทกับที่เคยได้รับความช่วยเหลือ และไม่เป็นผู้ที่เคยฝ่าฝืนเงื่อนไขเกี่ยวกับการขอรับจัดสรรเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ ของกรมการขนส่งทางบก

โดยผู้พิการเตรียมบัตรประจำตัวประชาชน หรือหลักฐานแสดงตนอื่นที่ทางราชการออกให้ เช่น บัตรประจำตัวผู้พิการ รูปถ่ายของผู้พิการที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะความพิการอย่างชัดเจน รูปถ่ายแสดงสภาพอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน รูปถ่ายแสดงสภาพแวดล้อมบริเวณที่พักอาศัยหรือบ้านพักผู้พิการ (กรณีขอรถนั่งไฟฟ้า) และประวัติทางการแพทย์จากทะเบียนผู้ป่วย (OPD Card) หรือหลักฐานที่ทางราชการออกให้ หรือหลักฐานการขอรับหรือได้รับการชดเชยค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย หรือเอกสารหลักฐานยืนยัน หรือระบุโดยแพทย์และมีตราประทับของสถานพยาบาลไว้อย่างชัดเจนว่า ความพิการของผู้พิการมีสาเหตุมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน

ซึ่งผู้พิการที่ประสงค์จะขอรับอุปกรณ์ สามารถยื่นคำขอตามแบบที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด พร้อมด้วยเอกสารหลักฐาน ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดตามภูมิลำเนาของผู้พิการ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 29 ธันวาคม 2566

website 3265

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.prd.go.th หรือ โทร. 02-618-2323

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด