ตามที่มีการโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับเรื่องหมอพรทิพย์แนะนำผลิตภัณฑ์ VERAKOSE รักษาเส้นเลือดขอด ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีที่มีการโฆษณาผลิตภัณฑ์ VERAKOSE รักษาเส้นเลือดขอด โดยมีภาพและชื่อของแพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ เป็นผู้โปรโมทผลิตภัณฑ์ดังกล่าวด้วยนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าโฆษณาและภาพที่ปรากฎดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลเท็จ จากการตรวจสอบข้อมูลการอนุญาตผลิตภัณฑ์ในระบบสืบค้นข้อมูลผลิตภัณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา พบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจดแจ้งเป็นเครื่องสำอาง ชื่อการค้า วีราโคส แบรนด์(VERAKOSE BRAND) ชื่อเครื่องสำอาง วีราโคส ครีม (VERAKOSE CREAM) เลขที่ใบรับจดแจ้ง 10-1-6300039082 มีวัตถุประสงค์เพื่อบำรุงผิว ผู้ผลิต คือ บริษัท พอช เมดิก้า ไลฟ์เทค จำกัด และมีการใช้ข้อความโฆษณาที่เป็นเท็จ โอ้อวดเกินจริง และทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง
นอกจากนี้ยังพบมีการแอบอ้างภาพและชื่อของแพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต และแอบอ้างชื่อบุคลากรทางการแพทย์ ในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านหลอดเลือดดำระดับสูง และศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นผู้รับรองผลิตภัณฑ์ดังกล่าวด้วย โดยชื่อแพทย์ตามที่กล่าวอ้างรับรองผลิตภัณฑ์ไม่มีข้อมูลชื่อในฐานข้อมูลตรวจสอบรายชื่อแพทย์จากเว็บไซต์ของแพทยสภา อย. จึงขอเตือนประชาชนว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่สามารถรักษาเส้นเลือดขอดได้ อย่าหลงเชื่อใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวโดยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจทำให้โรคที่เป็นอยู่มีความรุนแรงขึ้น ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข https://www.fda.moph.go.th/Pages/HomeP_D2.aspx หรือโทร. 02-590-7000 ได้ในเวลาราชการ
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวโอ้อวดเกินจริง และทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง อีกทั้งมีการแอบอ้างภาพและชื่อของแพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต และแอบอ้างชื่อบุคลากรทางการแพทย์
