ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูล เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ปตท. รายได้สูงถึง 3 ล้านล้านบาท/ปี แต่นำส่งเข้ารัฐแค่ 1% เท่านั้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ ปตท. จำกัด (มหาชน) กระทรวงพลังงาน และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
กรณีการโพสต์ให้ข้อมูลที่ระบุว่า ปตท. มีรายได้ปีละ 3 ล้านล้านบาท แต่น้ำเงินส่งเข้ารัฐเพียงแค่ 2-3 หมื่นล้านบาท คิดเป็นแค่ 1% เท่านั้น ทางบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กระทรวงพลังงาน ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงประเด็นดังกล่าวว่า รายได้ของ ปตท. ไม่เคยสูงถึง 3 ล้านล้านบาท และการคำนวณเงินส่งเข้ารัฐคิดจากกำไรไม่ใช่รายได้ โดยในปี 2563 รายได้ ปตท. อยู่ที่ 1.61 ล้านล้านบาท EBITDA (Earnings before Interest, Tax, Depreciation and Amortization) หรือ กำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย, ภาษี, ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย อยู่ที่ประมาณ 2.25 แสนล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 3.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปี 2563 กลุ่ม ปตท. นำส่งรายได้ให้รัฐจำนวน 36,535 ล้านบาท อ้างอิงจาก https://pttinsight.com/api/upload/issues/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%95%E0%B8%97.jpg
นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลังได้ชี้แจงประเด็นนี้ว่า รัฐวิสาหกิจเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีรูปแบบการจัดตั้งที่แตกต่างกัน ทั้งที่เป็นประเภทที่มีกฎหมายจัดตั้งเฉพาะ (พระราชบัญญัติและพระราชกฤษฎีกา) ประเภทบริษัทจำกัดที่จัดตั้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และบริษัทมหาชน จำกัด ที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และประเภทที่ไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคล และรัฐวิสาหกิจมีความหลากหลายแตกต่างกันตามประเภทของการประกอบกิจการ เช่น ประเภทจัดหารายได้ ประเภทสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ ประเภทเกษตรกรรม พาณิชย์ อุตสาหกรรม การเงินและบริการ และประเภทส่งเสริม
การนำส่งรายได้แผ่นดินของรัฐวิสาหกิจเป็นไปตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561 โดยเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจะขึ้นอยู่กับประเภทรัฐวิสาหกิจ และหลักการในการนำส่งรายได้แผ่นดิน หากรัฐวิสาหกิจมีกำไรสุทธิ กระทรวงการคลังจะเรียกเงินนำส่งคลังคิดเป็นร้อยละของกำไรสุทธิ ซึ่งในแต่ละปีได้มีการกำหนดจำนวนที่รัฐวิสาหกิจต้องนำส่งไว้ในเอกสารงบประมาณ ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจที่เป็นบริษัทมหาชนจำกัด นอกจากจะนำส่งเงินรายได้แผ่นดินเข้าคลังแล้ว ยังต้องนำส่งรายได้ในลักษณะภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วย
ในปีงบประมาณ 2564 ในภาพรวมผลประกอบการของรัฐวิสาหกิจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจสามารถจัดเก็บเงินรายได้แผ่นดินได้จำนวน 160,070 ล้านบาท โดยเป็นการนำส่งรายได้แผ่นดินของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ให้กระทรวงการคลังจำนวน 14,599 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 39 ของกำไรสุทธิ และนำส่งภาษีเงินได้นิติบุคคลจำนวน 5,816 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการนำส่งรายได้ในรูปแบบอื่นๆ เช่น ภาษีเงินได้บริษัทในเครือ เป็นต้น
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.pttplc.com/th/Home.aspx
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ในการนำส่งรายได้แผ่นดิน หากรัฐวิสาหกิจมีกำไรสุทธิ กระทรวงการคลังจะเรียกเงินนำส่งคลังคิดเป็นร้อยละของกำไรสุทธิ ซึ่งในแต่ละปีได้มีการกำหนดจำนวนที่รัฐวิสาหกิจต้องนำส่งไว้ในเอกสารงบประมาณไว้แล้ว อีกทั้ง รายได้ของ ปตท. ไม่เคยสูงถึง 3 ล้านล้านบาท และการคำนวณเงินส่งเข้ารัฐคิดจากกำไร ไม่ใช่รายได้ โดยในปี 2563 รายได้ ปตท. อยู่ที่ 1.61 ล้านล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 3.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปี 2563 กลุ่ม ปตท. นำส่งรายได้ให้รัฐจำนวน 36,535 ล้านบาท
