ตามที่มีการแชร์ข่าวสารเกี่ยวกับประเด็นเรื่อง แนวกั้นน้ำบริเวณแยกจากคลองชัยนาท-ป่าสัก จ.สระบุรี พังทลาย ทำให้น้ำในคลองระพีพัฒน์ มีปริมาณสูงขึ้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน
จากกรณีการเผยแพร่ข้อมูลเรื่องแนวกั้นน้ำบริเวณ ถนนช่วงต้นคลอง 23 R ที่แยกจากคลองชัยนาท-ป่าสัก ขาดพังทลายทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ ม.5 ต.สร่างโศก ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร และระบุว่ามวลน้ำนี้ทำให้น้ำในคลองระพีพัฒน์ มีปริมาณมากขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ทางกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า กรณีแนวกั้นน้ำบริเวณ ถนนช่วงต้นคลอง 23 R ที่แยกจากคลองชัยนาท-ป่าสัก (เกือกม้าโครงการชลประทานเริงรางคลอง23R) ขาดพังทลายทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ ม.5 ต.สร่างโศก ระดับน้ำที่ท่วมพื้นที่ชุมชนอยู่ที่ประมาณ 50 – 60 เซนติเมตร แต่ในส่วนของพื้นที่ลุ่มต่ำที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตร น้ำจะท่วมสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนที่กล่าวว่า น้ำท่วมดังกล่าวจะทำให้น้ำในคลองระพีพัฒน์ มีปริมาณมากขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากปริมาณน้ำที่ท่วมนี้ไม่ได้ไหลลงสู่คลองระพีพัฒน์ แต่จะไหลลงสู่พื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งบางกุ่ม คลองบางพระครู และไหลลงสู่แม่น้ำป่าสักตามลำดับ
โดยในส่วนของคันคลองที่ทรุดเสียหาย สำนักงานชลประทานที่ 10 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งทำการปิดปากคลองส่งน้ำ 23 ขวา เพื่อลดความแรงของน้ำที่ไหลเข้าจุดที่คันคลองเกิดการทรุดตัว เมื่อระดับน้ำเริ่มลดลงจะดำเนินการซ่อมแซมคันคลองที่ทรุดตัว เพื่อลดปริมาณน้ำที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนต่อไป
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www1.rid.go.th หรือโทรสายด่วน 1460
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : กรณีแนวกั้นน้ำดังกล่าวพังทลาย ทำให้น้ำท่วมในพื้นที่ ม.5 ต.สร่างโศก โดยระดับน้ำที่ชุมชนประมาณ 50 – 60 เซนติเมตร แต่ในส่วนพื้นที่ลุ่มต่ำที่เป็นพื้นที่การเกษตร น้ำจะท่วมสูงประมาณ 1 เมตร และปริมาณน้ำที่ท่วมนี้ไม่ได้ไหลลงสู่คลองระพีพัฒน์
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
