ตามที่มีการบอกต่อข้อมูลในโซเชียลเรื่องจองตั๋วรถไฟต้องใช้บัตรเครดิต และเดบิตเท่านั้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน
จากกรณีที่มีการโพสต์โดยระบุว่า 16 ก.พ. จองตั๋วรถไฟ ต้องใช้บัตรเครดิตและเดบิตเท่านั้น ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ผู้โดยสารทุกคนที่ต้องการซื้อตั๋วโดยสาร หรือสำรองที่นั่งล่วงหน้ายังสามารถเลือกซื้อตั๋วโดยสาร หรือสำรองที่นั่งได้ที่สถานีรถไฟ หรือผ่านทางโทรศัพท์สายด่วน 1690 สามารถชำระเป็นเงินสดหรือเลือกชำระผ่านรูปแบบระบบทรูมันนี่ รวมถึงบัตรเครดิต/เดบิต ได้ทุกสถานีทั่วประเทศเป็นปกติ ไม่ได้มีการปิดกั้นหรือบังคับให้ชำระได้เฉพาะบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่การรถไฟฯ มีการปรับเปลี่ยนวิธีการชำระเงินเป็นบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ได้ปรับเปลี่ยนเฉพาะการซื้อตั๋วและสำรองที่นั่งผ่านระบบ D-Ticket ทั้งเว็บไซต์ D-Ticket (https://dticket.railway.co.th) และแอปพลิเคชัน D-Ticket (ระบบ Android และ IOS) เท่านั้น เพื่อช่วยกระจายโอกาสในการซื้อตั๋วแก่ผู้โดยสารทุกคนอย่างทั่วถึง เริ่มตั้งแต่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เนื่องจากที่ผ่านมา มีผู้สำรองที่นั่งผ่านช่องทาง D-Ticket และไม่นำรหัสการจองตั๋วมาชำระเงินภายในระยะเวลาที่กำหนดจำนวนมาก จนส่งผลให้ผู้โดยสารท่านอื่น ๆ ขาดโอกาสไม่สามารถเข้าถึงสิทธิ์การสำรองที่นั่งในช่วงระยะเวลาดังกล่าวได้
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และสามารถติดตามข่าวสารของการรถไฟแห่งประเทศไทย สามารถติดตามได้ที่ เฟซบุ๊ก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือสามารถจองตั๋วออนไลน์ได้ทาง เว็บไซต์ www.thairailwayticket.com หรือโทร Call Center 1690
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ผู้โดยสารทุกคนที่ต้องการซื้อตั๋วโดยสาร หรือสำรองที่นั่งล่วงหน้ายังสามารถเลือกซื้อตั๋วโดยสาร หรือสำรองที่นั่งได้ที่สถานีรถไฟ หรือผ่านทางโทรศัพท์สายด่วน 1690 สามารถชำระเป็นเงินสดหรือเลือกชำระผ่านรูปแบบระบบทรูมันนี่ รวมถึงบัตรเครดิต/เดบิต ได้ทุกสถานีทั่วประเทศเป็นปกติ ไม่ได้มีการปิดกั้นหรือบังคับให้ชำระได้เฉพาะบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตแต่อย่างใด
