Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

จำนวนผู้เข้าชม 29,701,021

ข่าวบิดเบือน แจ้งความจับรถแต่งผิดกฏหมายหรือควันดำ ผู้แจ้งได้รับส่วนแบ่ง 50% ทันที

ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆเกี่ยวกับประเด็นแจ้งความจับรถแต่งผิดกฏหมายหรือควันดำ ผู้แจ้งได้รับส่วนแบ่ง 50% ทันทีทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน

จากที่มีการแชร์ว่ากรมการขนส่งทางบกย้ำผู้แจ้งความจับรถแต่งผิดกฎหมายหรือควันดำจะได้รับส่วนแบ่ง 50% ทันที ทางกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคมได้ชี้แจงว่า ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดและเมื่อได้มีการตรวจสอบและดำเนินการเปรียบเทียบปรับหรือคดีถึงที่สุดแล้วผู้แจ้งเบาะแสะการกระทำความผิดมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งค่าปรับตามระเบียบว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนรางวัล หลังจากหักเป็นเงินนำส่งรายได้แผ่นดินแล้วสำหรับการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดผู้แจ้งต้องต้องมีหลักฐานเชิงประจักษ์ครบถ้วน เช่น ภาพหรือคลิปวิดีโอบันทึกการกระทำความผิดที่ชัดเจน วันเวลา สถานที่เกิดเหตุ รายละเอียดรถ ทะเบียนรถ และอื่นๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามได้อย่างรวดเร็ว พร้อมระบุชื่อและนามสกุล เลขประจำตัวประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์ของผู้แจ้ง ช่องทางการติดต่อ และในกรณีผู้แจ้งประสงค์จะขอรับเงินส่วนแบ่งค่าปรับให้ระบุหมายเลขบัญชีธนาคารของผู้แจ้งด้วย และส่งข้อมูลได้ที่ สายด่วน 1584, Line@ : @1584DLT,  เฟซบุ๊ก 1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ หรือ https://www.facebook.com/dlt1584/, เว็บไซต์ http://ins.dlt.go.th/cmpweb/ หรือ https://www.dlt.go.th/,แอปพลิเคชัน DLT GPS 

ทั้งนี้ การรับเงินส่วนแบ่งจะได้รับภายหลังจากที่ผู้กระทำความผิดได้ชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบปรับแล้ว ซึ่งจะมีข้อความ SMS ส่งให้ผู้แจ้งทราบผลการดำเนินการ และโอนเข้าบัญชีธนาคารของผู้แจ้ง ภายใน 15 วันทำการ

ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และสามารถติดตามข่าวสารของกรมการขนส่งทางบก website: www.dlt.go.th ,Facebook: กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News , https://www.facebook.com/PR.DLT.NEWS/ สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดและดำเนินการเปรียบเทียบปรับหรือคดีถึงที่สุดแล้วผู้แจ้งเบาะแสะการกระทำความผิดมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งค่าปรับตามระเบียบว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนรางวัล หลังจากหักเป็นเงินนำส่งรายได้แผ่นดินแล้วสำหรับการแจ้งเบาะแสการกระทำไม่ใช่ได้รับทันที

  หน่วยงานที่ตรวจสอบ

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด