ตามที่มีข่าวสารถึงเรื่องโนโรไวรัสเป็นไวรัสตัวใหม่ ถึกทนต้านเจลแอลกอฮอล์ อาการรุนแรง ไม่มีวัคซีนป้องกัน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน
กรณีที่มีการบอกต่อแนะนำข้อมูลว่า โนโรไวรัสเป็นไวรัสตัวใหม่ ถึกทนต้านเจลแอลกอฮอล์ อาการรุนแรง ไม่มีวัคซีนป้องกัน ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า โนโรไวรัส เป็นหนึ่งในเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารมีมานานมากแล้ว พบการระบาดในต่างประเทศมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2472 แพร่ระบาดได้ง่ายช่วงอากาศเย็น ในฤดูหนาวและฤดูฝน มักพบการระบาดในสถานที่ที่มีคนหนาแน่น ระยะฟักตัวเร็วเพียง 12-48 ชม.
ผู้ป่วยมักมีอาการท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดเกร็งท้อง อาจมีไข้ต่ำ ๆ ได้ อาการจะค่อย ๆ หายไปภายใน 1-3 วัน เด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำอาจมีอาการ รุนแรงได้หลังหายแล้วเชื้อยังคงอยู่ในอุจจาระได้นาน 2-3 สัปดาห์ซึ่งสามารถแพร่เชื้อไปให้ผู้อื่นได้
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันหรือยาที่ใช้รักษาเฉพาะเจาะจงใช้การรักษาตามอาการ เชื้อนี้มีความทนทานต่อแอลกอฮอล์ล้างมือ จึงแนะนำให้หมั่นล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ ร่วมกับยึดหลักการป้องกันโรคด้วย “สุก ร้อน สะอาด” ได้แก่
1. กินอาหารปรุงสุกใหม่ไม่กินอาหารดิบหรือสุกๆ ดิบๆ แยกอาหารปรุงสุกและอาหารดิบออกจากกัน ทั้งภาชนะ อุปกรณ์ และ การจัดเก็บ
2. ล้างวัตถุดิบ ผัก ผลไม้ให้สะอาดก่อนนำมารับประทานหรือปรุงประกอบอาหาร
3. เลือกดื่มน้ำบรรจุขวดที่มีเครื่องหมาย อย. บรรจุภัณฑ์สะอาดไม่รั่วซึม ฝาปิดสนิท บริโภคน้ำแข็งหลอดบรรจุถุงปิดสนิท ได้ มาตรฐาน GMP มีเครื่องหมาย อย. มีข้อความ “น้ำแข็งใช้รับประทานได้” และไม่มีวัตถุดิบหรือสิ่งของอื่นแช่ปนในน้ำแข็งบริโภค
4. อาหารหลังปรุงสุกที่เก็บไว้นานเกิน 2 ชม. ต้องนำมาอุ่นร้อนให้ทั่วถึงก่อนกินทุกครั้ง
5. หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำสะอาดและสบู่อย่างน้อย 20 วินาที ก่อนหยิบจับอาหาร ก่อนและหลังดูแลผู้ป่วย หลังเข้า ห้องน้ำหลังเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็ก หลังสัมผัสผู้ป่วย หลังสัมผัสพื้นผิวสาธารณะเช่น ราวบันได ลูกบิดประตู เป็นต้น
ดังนั้น ขอเตือนว่า ข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/ หรือโทร 02-590-3000
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เชื้อโนโรไวรัส ไม่ใช่ไวรัสตัวใหม่แต่พบการระบาดในต่างประเทศมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2472 ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน เชื้อนี้มีความทนทานต่อแอลกอฮอล์ล้างมือ คนทั่วไปอาการมักจะดีขึ้นภายใน 1-3 วัน แต่กลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีความคุ้มกันบกพร่อง เสี่ยงอาจมีอาการรุนแรงได้
