Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

จำนวนผู้เข้าชม 29,650,189

สธ. ปรับเพิ่มวงเงินประกันสุขภาพชาวต่างชาติ ประเภทอยู่ชั่วคราวไม่เกิน 1 ปี จาก 4 แสน เป็น 3 ล้านบาท จริงหรือ ?

ตามที่มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับประเด็นเรื่อง สธ. ปรับเพิ่มวงเงินประกันสุขภาพชาวต่างชาติ ประเภทอยู่ชั่วคราวไม่เกิน 1 ปี จาก 4 แสน เป็น 3 ล้านบาท ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ผู้อำนวยการกองตรวจลงตราและเอกสารเดินทางคนต่างด้าว ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 และรองเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้แถลงข่าวเรื่อง “การปรับปรุงหลักเกณฑ์เพิ่มเติมรองรับการทำประกันสุขภาพสำหรับชาวต่างด้าวผู้ขอรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว Non-Immigrant Visa รหัส O-A (ระยะ 1 ปี)”

โดยกล่าวว่ารัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพระดับโลก (Medical Hub) มีการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย นวดไทย สปา และพัฒนาศักยภาพของสถานบริการสุขภาพทั้งรัฐและเอกชนทุกระดับ รวมถึงสถานประกอบการเพื่อสุขภาพให้ได้คุณภาพ มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับระดับสากล เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้าประเทศเพิ่มมากขึ้น ที่ผ่านมามีผู้สูงอายุขอรับการตรวจลงตราเข้ามาพำนักระยะยาว (Long Stay) ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี รวม 3,768 ราย (ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกรมการกงสุล, พ.ศ. 2563-2564) ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2564 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในหลักการปรับปรุงหลักเกณฑ์เพิ่มเติม ตามที่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอ โดยกำหนดให้ชาวต่างด้าวผู้ขอรับการตรวจลงตราสามารถซื้อประกันสุขภาพจากต่างประเทศ หรือมีสวัสดิการภาครัฐจากต่างประเทศได้ และปรับวงเงินประกันสุขภาพจากเดิมผู้ป่วยนอก 40,000 บาท ผู้ป่วยใน 400,000 บาท เปลี่ยนเป็นมีวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และมีประกันที่ครอบคลุมการรักษาโรคโควิด19 ไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 3,000,000 บาท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อสร้างความมั่นใจ ให้กับชาวต่างด้าวที่จะเข้ามาให้ได้รับการคุ้มครองและดูแลตลอดระยะเวลาที่พำนักในราชอาณาจักร

สำหรับหลักเกณฑ์การขอรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว ระยะเวลา 1 ปี จะใช้สำหรับชาวต่างด้าวผู้สูงอายุ ที่ไม่สามารถซื้อประกันในประเทศไทยได้, ผู้ที่แบบฟอร์มการรับรองการซื้อประกันในต่างประเทศไม่สอดคล้องกับระบบธุรกิจประกันภัย/สิทธิประโยชน์จากกองทุนต่างๆ และผู้ที่ยื่นต่ออายุวีซ่าครั้งที่สอง (Extend) ประสงค์จะขอใช้ประกันสุขภาพจากต่างประเทศ จะช่วยลดปัญหาของผู้ขอรับการตรวจลงตราที่ไม่สามารถยื่นต่อวีซ่าครั้งที่สองได้ รวมทั้งเป็นการยกระดับและคัดกรองชาวต่างด้าวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยสามารถซื้อกรมธรรม์แบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์สมาคมประกันวินาศภัยไทย https://longstay.tgia.org มีบริษัทประกันภาคที่เข้าร่วมโครงการ 17 แห่ง

เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://ops.moph.go.th/public/ หรือโทร. 02 5901000

 

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด