เจอแบบนี้ รีเช็กก่อน! ประติมากรรมสำริดรูปพระศิวะ หรือที่รู้จักในนาม “โกลเด้นบอย” (Golden Boy) ถือเป็นโบราณวัตถุชิ้นสำคัญที่ประเทศไทยได้รับคืนจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน (The MET) สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567 เหตุการณ์นี้นับเป็นหมุดหมายสำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีไทย
เนื่องด้วยรูปแบบทางศิลปะที่มีความคล้ายคลึงกับศิลปะเขมรโบราณ จึงจำเป็นต้องมีการชี้แจงข้อเท็จจริงให้ปรากฏชัดเจน แม้ในประเด็นด้านรูปแบบทางศิลปะและการกำหนดอายุสมัย จะเป็นความจริงที่ประติมากรรมโกลเด้นบอยจัดเป็นศิลปะขอมโบราณแบบบาปวนผสมนครวัด มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 ซึ่งในทางวิชาการประวัติศาสตร์ศิลปะ การพบศิลปะขอมในประเทศไทยไม่ใช่เรื่องแปลกปลอม แต่เป็นหลักฐานที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของอารยธรรมในอดีตที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ซึ่งในอดีตมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดทางเครือญาติและวัฒนธรรมกับอาณาจักรเมืองพระนคร

ดังนั้น การเป็น “ศิลปะเขมร” จึงไม่ได้หมายความว่า จะต้องถูกค้นพบในดินแดนประเทศกัมพูชาปัจจุบันเสมอไป แต่ข้อเท็จจริงที่สำคัญที่สุดในการยืนยันกรรมสิทธิ์ของประเทศไทยคือ “แหล่งที่พบ” ซึ่งมีพยานบุคคลและหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า ประติมากรรมชิ้นนี้ถูกขุดพบโดยชาวบ้านในปี พ.ศ. 2518 ณ บ้านยาง อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ที่เป็นพื้นที่ตั้งถิ่นฐานสำคัญในอดีตของราชวงศ์มหิธรปุระ ไม่ใช่การนำมาจากปราสาทหินในประเทศกัมพูชาแต่อย่างใด ก่อนที่จะถูกกลุ่มค้าของเก่าลักลอบนำออกนอกราชอาณาจักรไทยและขายต่อเป็นทอด ๆ จนไปปรากฏที่พิพิธภัณฑ์ในสหรัฐอเมริกา
กระบวนการส่งคืนโบราณวัตถุชิ้นนี้ เกิดขึ้นจากการตรวจสอบอย่างละเอียดร่วมกันระหว่างสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ และทางพิพิธภัณฑ์ The MET ซึ่งผลการสอบสวนระบุชัดเจนว่า โบราณวัตถุดังกล่าวถูกลักลอบนำออกจาก “ราชอาณาจักรไทย” โดยผิดกฎหมาย จึงเข้าข่ายต้องส่งคืนประเทศต้นทางตามอนุสัญญาและกฎหมายสากล การที่สหรัฐอเมริกาส่งมอบคืนให้แก่ประเทศไทย จึงเป็นการยอมรับในความถูกต้องของหลักฐานถิ่นกำเนิดและการค้นพบดังกล่าวอีกทางหนึ่งด้วย




