จากที่มีการส่งต่อข้อมูลที่อ้างว่า “โควิด 19 ไม่มีอยู่จริงในรูปของไวรัส แต่เป็นแบคทีเรียที่ได้รับรังสี และทำให้มนุษย์เสียชีวิตจากการแข็งตัวของเลือด” ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยว่า ประเด็นโควิด 19 ไม่มีอยู่จริงในรูปของไวรัส แต่เป็นแบคทีเรียที่ได้รับรังสี นั้น โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นโรคระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากไวรัส SARS-CoV-2 อยู่ในตระกูล Coronaviridae ตระกูลย่อย Orthocoronavirinae มีลักษณะเป็นไวรัสชนิดอาร์เอ็นเอสายเดี่ยวที่มีเยื่อหุ้มไขมันล้อมรอบ
จากที่มีการกล่าวอ้างว่า “โควิด 19 ทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือด” โรคโควิด 19 อาจส่งผลให้เกิดภาวะ “COVID-19-associated coagulopathy (CAC)” เป็นภาวะที่พบได้ในผู้ป่วย COVID-19 ในกลุ่มที่มีอาการรุนแรงหรือวิกฤต ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเกิดลิ่มเลือดทั้งในหลอดเลือดขนาดใหญ่และขนาดเล็ก รวมถึงการอักเสบที่เกิดจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ
แอสไพริน (Aspirin) หรือชื่อทางเคมีว่า แอซิติลซาลิไซลิกแอซิด (Acetylsalicylic acid) เป็นยาที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ บรรเทาอาการปวด ลดไข้ และที่สำคัญคือมีฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด (antiplatelet) ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับกระบวนการแข็งตัวของเลือด
บทความในวารสาร The BMJ ฉบับที่ 373:n14757 ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2021 รายงานผลการศึกษาเกี่ยวกับการใช้ยาแอสไพรินในผู้ป่วยโควิด-19 พบว่า การใช้แอสไพริน ไม่ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วยโควิด 19 ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แม้แอสไพรินจะมีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด แต่ผลการศึกษานี้ไม่พบประโยชน์ในแง่ของการลดอัตราการเสียชีวิต และไม่แนะนำให้ใช้แอสไพรินเป็นการรักษามาตรฐานสำหรับผู้ป่วยโควิด 19 ที่เข้ารับการรักษา
อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาใช้แอสไพรินอย่างระมัดระวัง และปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยา และการใช้ยาอาจมีผลข้างเคียงหรือความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล
ข้อมูลนี้ปลอม AFNC ตรวจสอบแล้ว