หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า พ.ร.บ. EnvOcc (กฎหมายควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม) ได้วางแนวทางสำหรับเจ้าหน้าที่ เมื่อประชาชนได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 ความรู้นี้ไม่ได้มีไว้เฉพาะเจ้าหน้าที่ แต่ประชาชนเองก็ควรรู้ว่า “หลังบ้าน” ของระบบรัฐเขาทำงานกันอย่างไร เพื่อให้เชื่อมั่นว่ายามเกิดเหตุร้ายต่อสุขภาพ จะมีระบบรองรับที่เดินเครื่องทันที

เมื่อพบเหตุประชาชนได้รับผลกระทบจาก PM 2.5 เจ้าหน้าที่ต้องทำอะไร?
- ขั้นตอนเริ่มต้นระดับจังหวัด/กทม.
ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ ผอ.สำนักอนามัย กทม. ต้องดำเนินการให้คณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมของจังหวัด/กทม. ประชุมหรือให้ความเห็นผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อพิจารณาแนวทางรับมือได้ทันที - หน้าที่ของคณะกรรมการระดับจังหวัด/กทม. คณะกรรมการจะให้คำแนะนำต่ออธิบดีกรมควบคุมโรค เช่น
• จะประกาศ “เขตควบคุมโรคหรืออาการจาก PM 2.5” หรือไม่
• ระบุสถานการณ์ เหตุผล ความจำเป็น
• เสนอแนวทางเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคที่เหมาะกับพื้นที่
• เสนอประกาศ “ยกเลิกเขตควบคุมโรค” เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย
จากนั้นประธานหรือเลขานุการจะจัดส่งเอกสารอย่างเป็นทางการไปยังกรมควบคุมโรค - ขั้นตอนการตรวจสอบของกรมควบคุมโรค
กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมร่วมกับกองกฎหมาย จะตรวจข้อมูลภายใน 1 วัน ก่อนเสนอให้ อธิบดีกรมควบคุมโรคพิจารณา
ผลลัพธ์มี 2 แบบ
- เห็นสมควรให้ประกาศเป็นเขตควบคุมโรค/ยกเลิกเขตควบคุม
– อธิบดีลงนามประกาศ
– ส่งประกาศไปยัง สสจ./หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
– สั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินมาตรการควบคุมโรค
– ประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานและประชาชนรับทราบ
- เห็นว่าไม่ควรประกาศ
– แจ้ง สสจ. เพื่อรายงานต่อคณะกรรมการระดับจังหวัดต่อไป
ความเข้าใจเรื่องนี้ช่วยให้ประชาชนรู้ว่า การควบคุมฝุ่นไม่ใช่แค่เรื่องของหน้ากากอนามัย เป็นกลไกทั้งระบบที่ถูกออกแบบเพื่อปกป้องสุขภาพคนทั้งประเทศ




