mobile-menu
search icon mobile
search on header

<p>

จำนวนผู้เข้าชม 20,968,442
</p>

ฮ่องกงเพิ่มไทยเข้ากลุ่มประเทศเสี่ยงสูง แม้ฉีดวัคซีนจากไทยก็เข้าฮ่องกงไม่ได้ จริงหรือ ?

ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวสารในสื่อออนไลน์เรื่อง ฮ่องกงเพิ่มไทยเข้ากลุ่มประเทศเสี่ยงสูง แม้ฉีดวัคซีนจากไทยก็เข้าฮ่องกงไม่ได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 รัฐบาลฮ่องกงประกาศปรับประเทศไทยพร้อมอีก 14 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ กัมพูชา ฝรั่งเศส กรีซ อิหร่าน มาเลเซีย เนเธอแลนด์ สเปน ศรีลังกา สวิตเซอร์แลนด์ แทนซาเนีย ตุรกี ยูเออี และสหรัฐฯ เข้าในกลุ่มประเทศความเสี่ยงสูง (Group A) ซึ่งจะมีผลตั้งแต่เวลา 00.00 น. ของวันที่ 20 สิงหาคม 2564 โดยครอบคลุมถึงผู้เดินทางจากหรืออยู่ในประเทศเหล่านี้เกิน 2 ชั่วโมง ในช่วง 21 วัน ก่อนหน้าเดินทางเข้าฮ่องกง

ทั้งนี้อนุญาตให้เฉพาะผู้ที่มีถิ่นพำนักในฮ่องกง (Hong Kong residents) ที่ฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว และบุตรของผู้ที่มีถิ่นพำนักในฮ่องกง (Hong Kong residents) ที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี เดินทางเข้าฮ่องกงได้ และจะต้องแสดง
1. หลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐบาลฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ หรือที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้เป็น Stringent Regulatory Authority (SRAs)
2. ผลตรวจที่แสดงว่าปลอดเชื้อโควิด-19 ซึ่งได้ทำการตรวจเป็นเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนกำหนดเวลาเครื่องออก
3. หลักฐานการสำรองห้องพักในโรงแรมกักตัวในฮ่องกงเป็นเวลา 21 คืน (นับวันที่เดินทางถึงฮ่องกงเป็นวันแรก) รวมทั้งตรวจเชื้อโควิด-19 ภาคบังคับ 4 ครั้ง ระหว่างกักตัว เฝ้าระวังตนเองอีก 7 วันหลังครบการกักตัว และบังคับตรวจเชื้อโควิด-19 ในวันที่ 26 นับจากวันที่เดินทางถึงฮ่องกง

ซึ่งประกาศดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้ที่ไม่มีถิ่นพำนักในฮ่องกง ไม่สามารถเดินทางเข้าฮ่องกงจากประเทศไทยได้ แต่มีเงื่อนไขเพิ่มเติมเรื่องหน่วยงานที่ออกหลักฐานการฉีดวัคซีน โดยรัฐบาลฮ่องกงจะรับเฉพาะหลักฐานที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐบาลฮ่องกง หรือรัฐบาลกลางของ สปจ. หรือหน่วยงานที่ WHO กำหนดให้เป็น SRAs โดยจากการตรวจสอบรายชื่อพบว่า มีเพียงหน่วยงานประเทศในยุโรป สหรัฐฯ และออสเตรเลีย

ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกกระทรวงการต่างประเทศ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.mfa.go.th หรือโทร 02 2035000

หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ

  หน่วยงานที่ตรวจสอบ

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด