mobile-menu
search icon mobile
search on header

<p>

จำนวนผู้เข้าชม 20,987,087
</p>

สมอ. ตรวจเข้มมาตรฐาน หมวกกันน็อก ปืนฉีดน้ำ และยางรถยนต์ช่วงเทศกาลสงกรานต์ จริงหรือ?

จากที่มีข่าวสารในเรื่อง สมอ. ตรวจเข้มมาตรฐาน หมวกกันน็อก ปืนฉีดน้ำ และยางรถยนต์ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี มักเป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด เห็นได้จากสถิติปี 2566 มีอุบัติเหตุจากการใช้รถจักรยานยนต์ สูงถึง 80.46 % ของอุบัติเหตุทางถนนทั้งหมด ตนจึงได้กำชับให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ควบคุมมาตรฐานสินค้าให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย

ด้าน สมอ. ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจหมวกกันน็อก ปืนฉีดน้ำ และยางรถยนต์ อย่างต่อเนื่องและเข้มงวดมากขึ้น ก่อนเทศกาลสงกรานต์ เพื่อป้องกันและสกัดสินค้าไม่ได้มาตรฐานในท้องตลาดก่อนถึงมือประชาชน โดยเฉพาะปืนฉีดน้ำซึ่งเป็นสินค้าที่ทุกเพศทุกวัยนิยมซื้อมาใช้ในช่วงสงกรานต์ และจัดเป็นสินค้าควบคุมของ สมอ. ในกลุ่ม “ของเล่น” ปัจจุบันมีทั้งปืนฉีดน้ำแบบทั่วไปและปืนฉีดน้ำไฟฟ้า ซึ่งปืนฉีดน้ำไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน มอก. นั้น ครอบคลุมเฉพาะปืนฉีดน้ำไฟฟ้าที่มีแรงดันไม่เกิน 24 โวลต์ และต้องผ่านการทดสอบแรงดันน้ำ ด้วยการยิงปืนฉีดน้ำใส่แผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์ในระยะ 100 เซนติเมตร แผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์ต้องไม่ฉีกขาด ซึ่งหมายถึง จะไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บตามร่างกาย หากประชาชนที่จะซื้อปืนฉีดน้ำไฟฟ้า ขอให้เลือกที่มีมาตรฐาน มอก. และขอให้เล่นด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการฉีดน้ำใส่ใบหน้าหรือดวงตาผู้อื่น

สำหรับผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ขอให้เลือกใช้หมวกกันน็อกที่มีเครื่องหมาย มอก. เพื่อช่วยป้องกันศีรษะไม่ให้ได้รับอันตรายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ส่วนยางรถยนต์ต้องเลือกที่มีเครื่องหมาย มอก. เพราะว่าจะมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ได้

สมอ. ตรวจเข้มมาตรฐาน หมวกกันน็อก ปืนฉีดน้ำ และยางรถยนต์

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.tisi.go.th/ โทรศัพท์ : 02-430-6815

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด