mobile-menu
search icon mobile
search on header

<p>

จำนวนผู้เข้าชม 20,922,671
</p>

สธ. แนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิด 19 พร้อมไข้หวัดใหญ่ได้ สามารถช่วยลดความเสี่ยงทั้ง 2 โรคช่วงฤดูฝน จริงหรือ?

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องสธ. แนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิด 19 พร้อมไข้หวัดใหญ่ได้ สามารถช่วยลดความเสี่ยงทั้ง 2 โรคช่วงฤดูฝน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงฤดูฝน นอกจากโรคโควิด 19 ที่มีแนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีโอกาสติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งทั้ง 2 โรคเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเหมือนกัน มีอาการคล้ายกัน การใช้มาตรการป้องกันตนเองจากโรคโควิด 19 ได้แก่ การเว้นระยะห่าง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น จะช่วยป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้เช่นกัน รวมทั้งสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อสู้กับเชื้อได้ด้วยการฉีดวัคซีน ทั้งวัคซีนโควิด 19 และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล

สำหรับวัคซีนโควิด 19 สามารถเข้ารับบริการได้ฟรีในสถานบริการของกระทรวงสาธารณสุขหรือจุดบริการฉีดวัคซีนใกล้บ้าน โดยขอให้มารับเข็มกระตุ้นตามกำหนดทุก 3 – 4 เดือน ส่วนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลในปี 2565 กรมควบคุมโรค ได้จัดสรรวัคซีนไว้สำหรับบุคลากรกลุ่มเสี่ยง 4 แสนโดส และประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง รวม 4.2 ล้านโดส ได้แก่
1. หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์มากกว่า 4 เดือนขึ้นไป
2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี
3. ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง คือ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย เบาหวาน และมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด
4. ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป
5. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
6. โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ
7. โรคอ้วน น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือมีค่าดัชนีมวลกาย BMI มากกว่า 35
เริ่มฉีดฟรีตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทั้งวัคซีนโควิด 19 และวัคซีนไข้หวัดใหญ่กระจายไปยังหน่วยบริการในพื้นที่ทั่วประเทศแล้ว ประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนทั้งสองชนิดพร้อมกันได้โดยไม่จำเป็นต้องเว้นระยะห่าง จะช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ลดอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากทั้ง 2 โรคได้

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://ops.moph.go.th/public/ หรือโทร. 02 590 1000

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด