ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องรัฐบาล เตรียมเปิดด่านชายแดนไทย – มาเลเซีย รับนักท่องเที่ยวเดือน มี.ค. 65 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) หรือ ศบค. ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศปก.ศบค.) และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านท่องเที่ยวและกีฬา (ศปก.กก.) ร่วมกันเร่งพิจารณาแนวทางดำเนินการเปิดด่านชายแดนทางบกรับนักท่องเที่ยว พื้นที่จังหวัดสงขลา ยะลา นราธิวาส และสตูล คาดว่าน่าจะเปิดดำเนินการได้ประมาณมีนาคม 65 โดยในเบื้องต้นทราบว่าทางประเทศมาเลเซียมีความพร้อมดำเนินการเช่นกัน ซึ่งนายกฯได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศสนับสนุนการประสานงานในเรื่องดังกล่าวด้วย เพื่อนำไปสู่การเห็นชอบอย่างเป็นทางการของทั้งสองฝ่าย ซึ่งการพิจารณาเปิดด่านชายแดนจังหวัดชายแดนใต้ เดิมคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน ทำให้ต้องเลื่อนออกไป แต่ขณะนี้ทุกอย่างอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล รัฐบาลจึงเร่งดำเนินการเตรียมความพร้อม เพื่อเปิดด่านรับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว และจะส่งผลต่อการฟื้นฟูธุรกิจอื่นๆ อย่างมาก และระหว่างนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการในเรื่องระบบการตรวจลงตรา การตรวจหาเชื้อโควิด 19 โรงแรมที่มีมาตรฐาน SHA++ ความพร้อมของมาตรการ Covid Free Setting ของสถานประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางของนักท่องเที่ยว ได้แก่ ระบบการขนส่ง สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น และเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันแก่ตนเองพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขอเชิญชวนให้ประชาชนในพื้นที่มารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ซึ่งรัฐบาลได้เร่งการฉีดให้ครบ 2 เข็มในเด็กวัยเรียน และการฉีดเข็มกระตุ้นในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 โรคเสี่ยง สตรีมีครรภ์ ในส่วนของสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดชายแดนใต้นั้น อยู่ในระดับเฝ้าระวัง เช่นเดียวกับอีก 25 จังหวัด ระบบสาธารณสุขมีความพอเพียงในเรื่องเตียงรองรับผู้ป่วยอาการหนัก และยารักษาที่จะจ่ายให้กับผู้ป่วยทั้งในระบบ โฮมไอโซเลชั่น และคอมมูนิตี้ ไอโซเลชั่น
ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.prd.go.th/th/page/item/index/id/1 หรือโทร 02-618 2323
