Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

จำนวนผู้เข้าชม 29,721,917

รัฐบาลอนุมัติให้สิทธิผู้สูงวัยยืมเงินรายละ 30,000 บาท ทั่วประเทศ จริงหรือ?

ตามที่มีข้อมูลเผยแพร่ในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องรัฐบาลอนุมัติให้สิทธิผู้สูงวัยยืมเงินรายละ 30,000 บาท ทั่วประเทศ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

การบริการกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นทุนใช้จ่ายในการประกอบอาชีพให้ผู้สูงอายุมีรายได้ สำหรับการดำรงชีวิตมีความมั่นคงในอาชีพเพิ่มขึ้น รวมถึงลดภาวะพึ่งพิงครอบครัว และสามารถหารายได้ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น

หลักเกณฑ์
1. รายบุคคล วงเงินไม่เกินคนละ 30,000 บาท
2. รายกลุ่ม จำนวนไม่น้อยกว่า 5 คน วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท

เงื่อนไข
1. ต้องมีผู้ค้ำประกัน
2. ต้องชำระคืนเป็นรายงวด ภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี โดยไม่มีดอกเบี้ย

คุณสมบัติของผู้ขอกู้ยืม
1. อายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
2. แข็งแรงสามารถประกอบอาชีพได้
3. มีสถานที่ในการประกอบอาชีพ
4. ไม่อยู่ระหว่างเป็นลูกหนี้กองทุน

คุณสมบัติของผู้ค้ำประกัน
1. อายุไม่เกิน 59 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
2. มีเงินเดือนประจำ
3. ภูมิลำเนาอยู่ที่เดียวกับผู้ขอกู้
4. ไม่อยู่ระหว่างค้ำประกันให้กับผู้กู้ยืมรายอื่น

ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 เริ่มใช้หลักเกณฑ์ใหม่ ดังนี้
คุณสมบัติผู้กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพ
1. มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
2. ประสบปัญหาความเดือดร้อนด้านเงินทุนประกอบอาชีพ
3. มีความสามารถในการประกอบอาชีพ
4. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริต
หรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ
5. มีปัจจัยในการประกอบอาชีพ
6. มีสถานที่ในการประกอบอาชีพในจังหวัดเดียวกันกับที่ได้ยื่นคำร้องขอกู้ยืมไว้
7. ไม่เป็นผู้กู้ หรือผู้ค้ำของกองทุนผู้สูงอายุ
8. คู่สมรส หรือบุคคลซึ่งอยู่กินกันฉันท์สามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรส
ต้องไม่เป็นผู้ค้างชำระเงินกองทุนผู้สูงอายุ

คุณสมบัติของผู้ค้ำ
1. เป็นผู้บรรจุนิติภาวะตามกฎหมาย และมีอายุ ไม่เกิน 57 ปีบริบูรณ์
2. มีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่จังหวัดเดียวกับผู้ขอกู้ยืม
3. เป็นผู้มีรายได้หรือเงินเดือนประจำไม่น้อยกว่า 9,000 บาท
4. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริต
หรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ
5. ไม่เป็นผู้ค้ำประกันหนี้ผู้สูงอายุบุคคลอื่น
6. ไม่เป็นคู่สมรส หรือบุคคลซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภรรยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสกับผู้กู้

website 2032

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารจากกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.dop.go.th/ หรือโทร. 02-642-4336

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด