เช็กดีหรือยังว่า ข้อมูลนี้เชื่อถือได้ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกมาให้ข้อมูลแล้วว่า ข้อมูลดังกล่าว “บิดเบือน”
จากภาพวิดีโอที่เกิดขึ้นในคลิป เป็นปรากฏการณ์การเกิดคลื่นไขว้ในพื้นที่อับคลื่นหลังเกาะ ซึ่งเป็นคลื่นสี่เหลี่ยมครอสเวฟ (Cross Wave) ดังนั้น พาดหัวที่ระบุในคลิป จึงไม่ตรงกับปรากฏการณ์ดังกล่าว
“คลื่นครอสเวฟ” ที่ปรากฏในคลิป เกิดจากการที่คลื่นเคลื่อนเข้ามาจากด้านนอกของเกาะ แล้วเกิดการเลี้ยวเบนของคลื่น (Diffraction) ที่บริเวณขอบของเกาะประภาคารทั้ง 2 ด้าน และเกิดการหักเห (Refraction) ตามการเปลี่ยนแปลงความลึก-ตื้นของน้ำทะเลบริเวณชายหาด จนถูกเบนทิศทางเข้ามาบรรจบกันและตัดกันในเขตที่อยู่หลังเกาะ เกิดการแทรกสอดของคลื่น (Wave Interference หรือ Superposition) เมื่อยอดคลื่น (Crest) ของคลื่นชุดหนึ่งมาซ้อนทับกับยอดคลื่นของอีกชุดหนึ่ง ซึ่งจะเกิดการแทรกสอดแบบเสริมกัน ทำให้ความสูงคลื่นในจุดนั้นเพิ่มขึ้น ในทางกลับกันหากยอดคลื่นไปซ้อนทับกับท้องคลื่น (Trough) จะเกิดการแทรกสอดแบบหักล้างกัน
“คลื่นครอสเวฟ” จะเป็นอันตรายอย่างยิ่งเมื่อเกิดขึ้นในมหาสมุทร และแม้ในเขตน้ำตื้น ปรากฏการณ์ที่เกิดจากการหักเหและการสะท้อนก็อาจสามารถสร้างอันตรายได้หากมีปรากฏการณ์อื่นเกิดร่วมด้วยในบริเวณใกล้เคียง เช่น กระแสน้ำย้อนกลับ (rip current)
ทั้งนี้ การเรียกคลื่นในทางทะเลว่า “คลื่นสี่เหลี่ยม” เป็นการเรียกตามลักษณะรูปลักษณ์ที่มองเห็นได้
