mobile-menu
search icon mobile
search on header

<p>

จำนวนผู้เข้าชม 21,046,435
</p>

ปลดล็อกกระท่อม จากบัญชียาเสพติดให้โทษ มีผลบังคับใช้ 90 วันหลังประกาศในราชกิจจาฯ จริงหรือ?

ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ปลดล็อกกระท่อม จากบัญชียาเสพติดให้โทษ มีผลบังคับใช้ 90 วันหลังประกาศในราชกิจจาฯ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

ที่ประชุมสภาฯ ได้พิจารณารับหลักการร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ โดย กมธ.ได้พิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งได้ข้อสรุปดังนี้ กมธ.ได้ใช้ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีเป็นหลักในการพิจารณา และมีข้อสังเกตท้ายรายงานเพื่อให้สภาพิจารณา คือ
1.ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้มีความมุ่งหมายเพื่อยกเลิกพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษอีกต่อไป ประชาชนผู้บริโภคพืชกระท่อมจะบริโภคได้โดยไม่มีความผิด และไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย เว้นแต่จะนำไปผสมสารเสพติดชนิดอื่น จะทำให้ผู้บริโภคจะมีความรู้สึกที่ดีได้รับการยอมรับจากสังคมว่าไม่ใช่ผู้ติดยาเสพติด

2.ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ จะบังคับใช้ภายใน 90 วัน หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งกมธ.แก้ไขให้เหมาะสมจากเดิมที่กำหนดไว้ 180 วัน โดยการยกเลิกโทษพืชกระท่อมจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ตามวิถีดั้งเดิม ลดภาระงานงบประมาณของรัฐในการจับกุมและดำเนินคดี รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมพืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ เพราะพืชกระท่อมคือสมุนไพรที่มีความหลากหลายทางชีวะภาพ มีศักยภาพที่ควรนำไปใช้ประโยชน์ให้เกิดกับประเทศโดยเฉพาะเกษตรกร จึงควรผลักดันร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลโดยเร็ว

3.เมื่อร่างพ.ร.บ.ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ประชาชนผู้นิยมบริโภคพืชกระท่อมอาจะเข้าผิด ว่ากฎหมายมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน อาจเกิดการใช้พืชกระท่อมอย่างเสรีทันที และอาจถูกจับกุมในช่วงที่กฎหมายยังไม่มีผล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ

4.ระยะเวลาใช้บังคับของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ เพื่อให้มีการร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม ขึ้นมาอีกฉบับหนึ่งเพื่อให้มีมาตรการควบคุมการใช้พืชกระท่อม หลังจากยกเลิกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดแล้ว โดยร่างพ.ร.บ.พืชกระท่อม กมธ.เห็นว่าไม่ควรมีข้อจำกัด เหมือนที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522
เพราะพืชกระท่อมเป็นยาสมุนไพรที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ แต่กำหนดไม่ให้เกิดการใช้ในเด็กแล้วเยาวชน และการปลูกที่มีความเท่าเทียมกัน เป็นต้น ส่งเสริมด้านการแปรรูปให้เกิดประโยชน์ ผลิตยาสมุนไพรแก้โรคต่างๆ ให้เป็นธุรกิจที่ส่งออกได้ทั่วโลก เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ

เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่ www.prd.go.th หรือโทร. 02-618-2323

หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี

  หน่วยงานที่ตรวจสอบ

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด