Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

จำนวนผู้เข้าชม 29,717,439

นายกฯ ตั้งเป้าหมายขับเคลื่อนไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์แห่งอนาคต จริงหรือ?

ตามที่มีข้อมูลปรากฏเรื่องนายกฯ ตั้งเป้าหมายขับเคลื่อนไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์แห่งอนาคต ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

นายกฯ ตั้งใจยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์แห่งอนาคต (Future Mobility Hub) ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพ และความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานของไทยและแผนส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) แบบครบวงจรตลอดห่วงโซ่อุปทาน ที่ครอบคลุมตั้งแต่การค้นคว้าวิจัย การผลิตชิ้นส่วน ยางรถยนต์ แบตเตอรี่ อะไหล่ การประกอบ การบำรุงรักษา ซึ่งจะทำให้เกิดการวางรากฐานให้ไทยมี EV ecosystem ที่สมบูรณ์ แข็งแกร่ง และยั่งยืน ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจของประเทศ

ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ครั้งที่1/2567 ได้เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุนผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System : ESS) เพื่อดึงดูดให้เกิดการลงทุนในการผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์ซึ่งเป็นส่วนต้นน้ำของอุตสาหกรรม EV ที่ใช้ที่เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต พร้อมทั้งได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนศึกษาถึงแนวทางการบริหารจัดการแบตเตอรี่ใช้แล้วแบบครบวงจรเพื่อนำไปกำหนดมาตรการที่เหมาะสมต่อไป

ซึ่งมาตรการส่งเสริมการลงทุนดังกล่าวจะสนับสนุนให้ผู้ลงทุนสามารถยื่นข้อเสนอโครงการลงทุนเพื่อขอรับสิทธิประโยชน์และเงินสนับสนุนจากกองทุนเพิ่มขีดความสามาระในการแข่งขันของประเทศฯ ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) โดยมีกำหนดเวลาในการยื่นข้อเสนอโครงการลงทุนภายในปี 2570 ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่ขอรับสิทธิประโยชน์และเงินสนับสนุนจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข 4 ข้อ ดังนี้

1. ต้องเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำที่มีการใช้งานโดยผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า
2. ต้องมีแผนการผลิตเซลล์แบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า โดยสามารถผลิตเซลล์แบตเตอรี่สำหรับระบบกักเก็บพลังงานได้
3. ต้องผลิตเซลล์แบตเตอรี่ที่มีค่าพลังงานจำเพาะ ไม่น้อยกว่า 150 Wh/Kg
4. ต้องมีจำนวนรอบการอัดประจุ (Life Cycle) ไม่น้อยกว่า 1,000 รอบ

สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ลงทุนที่ยื่นข้อเสนอโครงการลงทุนจะครอบคลุม 4 ประเด็น ดังนี้
1. เงินสนับสนุน 30-50 % ของมูลค่าการลงทุน
2. การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่เกิน 15 ปี ซึ่งสูงกว่าสิทธิประโยชน์ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมการลงทุนที่ยกเว้นได้ไม่เกิน 13 ปี
3. การยกเว้นอากรเครื่องจักร
4. การยกเว้นอากรวัตถุดิบ

website stamp 4345

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.prd.go.th หรือ โทร. 02-618-2323

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด