mobile-menu
search icon mobile
search on header

<p>

จำนวนผู้เข้าชม 20,756,202
</p>

ข่าวปลอม
ยาเสพติด

ดิสเครดิตรัฐบาล!! 3 ข่าวปลอมทำสังคมสับสน

3 ข่าวที่ออกมาเป็นชุดขณะนี้ สร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน ทางกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กับภารกิจรณรงค์ ส่งสเริม สนับสนุนการพัฒนาสื่อลอดภัยและสร้างสรรค์ ออกมรชี้แจง 3 ประเด็นข่าวปลอมที่ถูกเผยแพร่ในออนไลน์

สำนักสารสนเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงสืบเนื่องจากกระแสข่าวลือในเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์บางส่วนที่มีการนำเสนอว่า ประเทศไทยอนุญาตให้บุคคลสัญชาติไทยที่มีสมาชิกในครอบครัวอย่างน้อย 3 คน สามารถปลูกกัญชาได้ครอบครัวละไม่เกิน 50 ต้น ทั้งยังสามารถใช้กัญชาในทางสันทนาการได้นั้น

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าข้อความดังกล่าวมีเนื้อหาบิดเบือนไปจากข้อเท้จจริง โดย ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีการชี้แจงต่อสาธารณชนเกี่ยวกับ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ฉบับที่ 7 พ.ศ.2562 ว่า พระราชบัญญัติฉบับนี้มีการอนุญาตให้นำกัญชาไปใช้ประโยชน์เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น

ส่วนการนำไปใช้เพื่อหวังผลด้านอื่นๆ อาทิ ใช้ในเรื่องสันทนาการ หรือการเปิดเสรีให้ปลูกกัญชาได้ครอบครัวละไม่เกิน 50 ต้น ยังไม่มีการอนุญาตแต่อย่างใด ทั้งนี้ผู้ที่ผู้ลักลอบครอบครองหรือจำหน่ายยังคงมีความผิดทางกฎหมายที่ระวางโทษทั้งจำ ทั้งปรับ เหมือนเดิม

เตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อข้อความดังกล่าวหรือกดแชร์และส่งต่อข่าวนี้เด็ดขาดเพราะอาจจะตกเป็นเหยื่อของข่าวปลอมและกระทำความผิดตาม

กรณี”กินน้ำที่เย็นจัดบ่อยๆ จะทำให้เป็นนิ่ว” จึงต้องระวังและหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็น
จากการตรวจสอบข้อมูลกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พบว่า การกินน้ำเย็นจัดบ่อยๆ ไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นโรคนิ่วในไต

โดยสาเหตุของการเกิดโรคนี้แท้จริงแล้ว เกิดได้จากหลายปัจจัยร่วมกัน ตั้งแต่ปัสสาวะมีความเข้มข้นสูง ดื่มน้ำน้อยและสูญเสียเหงื่อมาก หรือกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง โปรตีนสูง โซเดียมสูง เป็นประจำ หรือมีภาวะยูริกในเลือดสูง เช่น เป็นโรคเกาต์ หรือคนที่เป็นโรคมะเร็งระหว่างได้รับเคมีบำบัด และกินยาบางอย่าง เช่น ยากันชักไดแลนติน หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนิ่วมาก่อน เป็นต้น ดังนั้น เรื่องการดื่มน้ำเย็นแล้วทำให้เป็นโรคนิ่ว จึงไม่เป็นความจริง “ข่าวปลอม” อย่าแชร์และส่งต่อเด็ดขาด

ส่วนที่แชร์ภาพประกอบข้อความว่ามีการประกาศใช้ พ.ร.บ. ข้าว พร้อมระบุว่า ชาวนาต้องขายข้าวผ่านรัฐ หากฝ่าฝืนโทษหนักติดคุก 5 ปี ปรับ 5 แสนบาทนั้น จากการตรวจสอบ พบว่าข้อความดังกล่าวเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ เนื่องจากเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมานั้น สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ถอนวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ข้าว ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย สนช. จะไม่หยิบยกร่าง พ.ร.บ.ข้าว เข้าสู่การพิจารณาอีกในวาระรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมระบุว่ารัฐบาลชุดหน้าจะหยิบยกขึ้นมาพิจารณาหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ หากยังเห็นว่าร่างกฎหมายดังกล่าวมีความสำคัญ

ส่วนการส่งต่อข้อมูล แชร์ในสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง กรณี เว็บไซต์อินเวสติ้ง เว็บไซต์ข่าวด้านการเงิน เศรษฐกิจ และการลงทุน ได้รายงานชื่อบุคคลที่มีฐานะร่ำรวยในระดับเศรษฐีของทวีปเอเชียทั้งหมด 45 คน ซึ่งพบว่ามีชื่อของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย รวมอยู่ด้วยนั้น พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงแล้่วว่า เป็นข่าวเท็จ ทำขึ้นเพื่อหวังผลทางการเมือง

ที่มา : www.springnews.co.th

  หน่วยงานที่ตรวจสอบ

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด