mobile-menu
search icon mobile
search on header

<p>

จำนวนผู้เข้าชม 21,023,075
</p>

ครม. อนุมัติวงเงินกว่า 6,216 ล้านบาท ทำระบบ Cloud กลางภาครัฐ เสริมความมั่นคงไซเบอร์ จริงหรือ?

ตามที่ได้มีข่าวปรากฏในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องครม. อนุมัติวงเงินกว่า 6,216 ล้านบาท ทำระบบ Cloud กลางภาครัฐเสริมความมั่นคงไซเบอร์ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลจริง

คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดให้มี Cloud กลางภาครัฐและให้บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนิน Cloud กลางภาครัฐ อันเนื่องมาจากการควบรวมกิจการและได้รับไปทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) ทั้งหมด ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 พร้อมเห็นชอบกรอบงบประมาณรายจ่ายผูกพันต่อเนื่อง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2568 โครงการบริการระบบ Cloud กลางภาครัฐ รวมวงเงิน 6,216 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายละเอียดโครงการบริการระบบ Cloud กลางภาครัฐ วงเงิน 6,216 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี ประกอบด้วย ค่าเช่าใช้ระบบเพื่อให้บริการระบบ Cloud กลางภาครัฐ แบ่งเป็น ค่าเช่าใช้บริการระบบ Cloud จำนวนไม่น้อยกว่า 25,000 VM รวม 3,852 ล้านบาท และ ค่าเช่าพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่ม จำนวน 3,000 TB จำนวน 5775 ล้านบาท,ค่าบริการการบริหารจัดการ Log และ Managed Security Service จำนวนไม่น้อยกว่า 25,000 VM รวม 1,350 ล้านบาท, ค่าบริการสิทธิของระบบบริหารจัดการฐานข้อมูล (Database License) รวม 229 ล้านบาท, ค่าบริการ Cloud Marketplace รวม 150 ล้านบาท และค่าบริการระบบศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายและ Call Center 24 ชั่วโมง 7 วัน รวม 57 ล้านบาท

สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ประเมินว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว จะทำให้รัฐประหยัดงบประมาณด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศในส่วนของค่าเช่า Cloud ได้ 4,116 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 76.22 และส่งเสริมระบบสารสนเทศของประเทศให้มั่นคงปลอดภัย เนื่องจากข้อมูลและระบบงานของหน่วยงานภาครัฐอยู่ในระบบ Cloud กลางภาครัฐที่มีมาตรฐานสากลด้านความมั่นคงปลอดภัยและตั้งอยู่ภายในประเทศ นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังเป็นพื้นฐานสำคัญของการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่รัฐบาลดิจิทัล รวมถึงการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อการบริหารจัดการและการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.prd.go.th หรือโทร. 02 618 2323

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด