mobile-menu
search icon mobile
search on header

<p>

จำนวนผู้เข้าชม 20,924,458
</p>

ครม. อนุมัติงบประมาณ 45,000 ล้านบาท ดำเนิน 10 มาตรการแก้ไขพลังงานแพง จริงหรือ?

ตามที่ได้มีข่าวปรากฏในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องครม. อนุมัติงบประมาณ 45,000 ล้านบาท ดำเนิน 10 มาตรการแก้ไขพลังงานแพง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลจริง

ครม. เห็นชอบมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานอันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรประหว่างยูเครน-รัสเซีย กรอบวงเงินเบื้องต้น 45,102.65 ล้านบาท เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนและลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบอาชีพในภาคขนส่ง รวมถึงดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อย กลุ่มแรงงานและกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมาตรการช่วยเหลือแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรก มาตรการช่วยเหลือในระยะเร่งด่วน 10 ข้อ ประกอบด้วย

  1. ทยอยปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) เดือนละ 15 บาท/ถัง เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เม.ย.-มิ.ย. 2565 โดยราคาก๊าซหุงต้มเดือน เม.ย. ถังละ 333 บาท เดือน พ.ค. ถังละ 348 บาท และเดือน มิ.ย. ถังละ 363 บาท กรอบวงเงินเบื้องต้น 6,380 ล้านบาท ซึ่งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นผู้บริการจัดการ
  2. ตรึงราคาขายปลีกก๊าซ NGV 15.59 บาท/กิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่ เม.ย.-มิ.ย. 2565 กรอบวงเงินเบื้องต้น 1,590 ล้านบาท โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารจัดการ
  3. ลดค่า Ft ลง 22 สตางค์/หน่วย เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่ พ.ค.-ส.ค. 2565 ให้แก่ผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน กรอบวงเงินเบื้องต้น 2,000-3,500 ล้านบาท โดยใช้งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ซึ่งมาจากงบประมาณปี 2565
  4. ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 30 บาท/ลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. 2565 หลังจากนั้นรัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งนึง ตั้งแต่ พ.ค.-มิ.ย. 2565 โดยอัตราชดเชยประมาณ 8 บาท/ลิตร กรอบวงเงินเบื้องต้น 33,140 ล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกรมสรรพสามิตเป็นผู้บริหารจัดการ
  5. ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก จำนวน 157,000 คน จะได้รับส่วนลดค่าน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 250 บาท/เดือน (5 บาท/ลิตร รวม 50 ลิตร) เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ พ.ค.-ก.ค. 2565 กรอบวงเงินเบื้องต้น 120 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
  6. ผู้ขับขี่รถแท็กซี่มิเตอร์ที่เข้าร่วมโครงการลมหายใจเดียวกัน จำนวน 17,460 คน สามารถซื้อก๊าซ NGV ได้ในราคาพิเศษ 13.62 บาท/กิโลกรัม วงเงินไม่เกิน 10,000 บาท/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ เม.ย.-มิ.ย. 2565 กรอบวงเงินเบื้องต้น 171 ล้านบาท โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารจัดการ
  7. เพิ่มส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มให้กลุ่มเปราะบางผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.6 ล้านคน โดยเพิ่มเงินเป็น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน จากเดิม 45 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ เม.ย.-มิ.ย. 2565 กรอบวงเงินเบื้องต้น 200 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
  8. ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 5,500 คน ได้รับส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้มเดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ เม.ย.-มิ.ย. 2565 กรอบวงเงินเบื้องต้น 1.65 ล้านบาท โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารจัดการ
  9. ลดอัตราเงินสบทบของนายจ้าง จำนวน 4.9 แสนราย และลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 จำนวน 11.2 ล้านคน จาก 5% เหลือ 1% เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ พ.ค.-ก.ค. 2565
  10. ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 1.9 ล้านคน จาก 9% เหลือ 1.9% เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ พ.ค.-ก.ค. 2565 และลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 จำนวน 10.7 ล้านคน จาก 70–300 บาท ลดลงเหลือ 42–180 บาท/เดือน เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ ก.พ.-ก.ค. 2565

มาตรการช่วยเหลือในระยะต่อไป ที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกันพิจารณาติดตามและปรับปรุงมาตรการการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่เหมาะสมตามสถานการณ์ของราคาพลังงานในตลาดโลก โดยคำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจ ความพร้อม และความสามารถทางการเงินของภาครัฐ ภายใต้พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.prd.go.th หรือโทร. 02 618 2323

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด