mobile-menu
search icon mobile
search on header

<p>

จำนวนผู้เข้าชม 21,085,210
</p>

ข่าวปลอม อย่าแชร์! ใช้เล็บนิ้วหัวแม่มือจิกตรงร่องระหว่างปากและใต้จมูก ช่วยอาการวูบ หมดสติ

ตามที่มีการให้คำแนะนำว่า ใช้เล็บนิ้วหัวแม่มือจิกตรงร่องระหว่างปากและใต้จมูก ช่วยอาการวูบ หมดสติ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีการเผยแพร่คำแนะนำที่ระบุว่า การใช้นิ้วหัวแม่มือจิกร่องระหว่างปากและใต้จมูก สามารถช่วยคนที่วูบหมดสติ ทางสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เป็นข้อมูลเท็จและอาจเป็นอันตรายได้ ซึ่งอาการวูบ ไม่ได้สติ อาจจะเป็นอาการของคนเป็นลม หรือเป็นอาการของโรคลมชักแบบเหม่อนิ่งก็ได้

หากเป็นอาการจากโรคลมชัก ผู้ป่วยอาจจะนิ่งเหม่อ ไม่พูด ไม่ตอบ บางรายอาจจะมีอาการเคี้ยวปาก ขยำมือ หรือมีอาการตัวเกร็ง แขนขาเกร็ง หรือหากรุนแรงขึ้นก็จะมีอาการเกร็งกระตุกทั้งตัว ไม่จำเป็นต้องให้การช่วยเหลือเพื่อหยุดอาการ เพราะอาการชักจะหยุดได้เอง แค่ดูแลให้ปลอดภัยจนกว่าผู้ป่วยจะรู้สึกตัว

หากเป็นอาการวูบ ซึ่งมาจากหลายสาเหตุ เช่น จากอาการเป็นลมทั่ว ๆ ไป จากภาวะหัวใจทำงานผิดปกติ ภาวะขาดออกซิเจน ภาวะสูญเสียน้ำ เป็นต้น การช่วยเหลือเบื้องต้น คือ การตรวจยืนยันว่าผู้ป่วยไม่ได้สติจริง ด้วยการเขย่าตัวพร้อมสอบถามอาการ และพยายามให้ผู้ป่วยอยู่ที่ที่มีอากาศถ่ายเท ให้ปลดหรือคลายเสื้อผ้าออก จัดให้นอนราบเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปทั่วร่างกายได้ง่ายขึ้น ไม่ควรตบ ตี จิก หรือกระทำความรุนแรงกับร่างกายของผู้ที่มีอาการ ระหว่างนี้ ควรตรวจสอบว่าผู้ป่วยยังหายใจปกติ คลำชีพจรว่ายังเต้นปกติหรือไม่ หากผู้ป่วยไม่หายใจหรือชีพจรหยุดเต้น ควรร้องขอให้คนช่วย เริ่มทำการช่วยฟื้นคืนชีพ ด้วยการกดหน้าอก และโทรแจ้ง 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป

หากอาการทั้งหมดเกิดจากการเป็นลม เมื่อให้การช่วยเหลือตามคำแนะนำข้างต้น ผู้ป่วยก็จะตื่นได้เองในเวลาอันรวดเร็ว การช่วยด้วยการเอาเล็บนิ้วหัวแม่มือจิกตรงร่องระหว่างปากและใต้จมูก แล้วผู้ป่วยฟื้นคืนสติ อาจจะเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ผู้ป่วยฟื้นคืนสติได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว จึงไม่ควรทำเพราะอาจจะเพิ่มอันตรายและการบาดเจ็บต่อผู้ป่วยได้

website 1253

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.pni.go.th หรือโทร. 02 3069899

บทสรุปของเรื่องนี้ : คำแนะนำดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ และไม่ควรทำเพราะอาจจะเพิ่มอันตรายและการบาดเจ็บต่อผู้ป่วยได้

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด