Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

จำนวนผู้เข้าชม 29,757,273

ข่าวปลอม อย่าแชร์! เป็นแผลแล้วกินไข่ ทำให้แผลเป็นนูน

ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง เป็นแผลแล้วกินไข่ ทำให้แผลเป็นนูน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีที่มีการแชร์ข้อความว่า หากเกิดแผลแล้วรับประทานไข่ จะทำให้เกิดแผลเป็นนูนนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ชี้แจงว่า การรับประทานไข่ไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดแผลเป็นนูน ระหว่างเกิดบาดแผลสามารถรับประทานไข่ได้ในปริมาณที่เหมาะสม โดยแผลเป็นนูนมี 2 ชนิด คือ
1. แผลเป็นนูนเกิน ที่แผลจะนูนขึ้นมาแต่ไม่ขยายเกินขอบเขตของบาดแผล เมื่อเกิดขึ้นแล้วสามารถกลับมาใกล้เคียงกับแผลเป็นปกติได้ภายใน 1 ปี ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
2. แผลเป็นคีลอยด์ แผลจะนูนขึ้นมา และขยายเกินขอบเขตของบาดแผล เมื่อเกิดขึ้นแล้วแผลจะนูนและใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ตามเวลา ซึ่งแผลเป็นชนิดนี้มีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อ และคอลลาเจนเพื่อซ่อมแซมบาดแผลมากเกินไป อีกทั้งพันธุกรรมก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดแผลเป็นคีลอยด์เช่นกัน

แผลเป็นสามารถรักษาได้หลายวิธี เช่น ผ่าตัด ใช้สเตียรอยด์แบบฉีด ซึ่งวิธีเหล่านี้ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ สำหรับวิธีที่สามารถดูแลแผลเป็นด้วยตัวเอง ทำได้ด้วยการใช้แผ่นแปะลดรอยแผลเป็นได้แก่ แผ่นซิลิโคน (Silicone) ใช้หลังเกิดแผลสดหายดีแล้ว โดยปิดแผลเป็นตลอด 24 ชั่วโมงนาน 3 เดือน, แผ่นเทปเหนียว (Microporous) ใช้ปิดลงบนแผลเป็น โดยอุปกรณ์ทั้งสองชนิดนี้จัดเป็นเครื่องมือแพทย์ สามารถซื้อและขอรับคำปรึกษาในการใช้แผ่นแปะลดรอยแผลเป็นจากเภสัชกรได้ตามร้านขายยาทั่วไป เพราะการดูแลแผลอย่างถูกวิธี และการนวดบริเวณแผลเป็น เป็นประจำในระหว่าง 6 เดือนแรก จะช่วยลดการขยายตัวและการนูนตัวของแผลเป็นได้

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ หรือหากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th หรือสายด่วน 1556

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การรับประทานไข่ไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดแผลเป็นนูน ระหว่างเกิดบาดแผลสามารถรับประทานไข่ได้ในปริมาณที่เหมาะสม

หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

  หน่วยงานที่ตรวจสอบ

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด