mobile-menu
search icon mobile
search on header

<p>

จำนวนผู้เข้าชม 20,968,442
</p>

ข่าวปลอม อย่าแชร์! เติมน้ำมันดีเซลบนเรือกลางแม่น้ำโขงที่รับมาจากบริษัท ปตท. ถูกกว่าไทยลิตรละ 10 บาท

ตามที่มีวิดีโอคลิปปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องเติมน้ำมันดีเซลบนเรือกลางแม่น้ำโขงที่รับมาจากบริษัท ปตท. ถูกกว่าไทยลิตรละ 10 บาท ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กระทรวงพลังงาน พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอโดยระบุว่า เติมน้ำมันกลางแม่น้ำโขงถูกกว่าไทย ราคาเพียงลิตรละ 10 บาท โดยน้ำมันดังกล่าวรับมาจากบริษัท ปตท. นั้น ทางบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กระทรวงพลังงาน ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ไม่ได้จำหน่ายน้ำมันเพื่อให้บริการเติมน้ำมันให้เรือขนส่งที่กลางแม่น้ำโขงตามที่ระบุในคลิปที่มีการเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย และโออาร์ ไม่มีคู่ค้าที่ดำเนินธุรกิจให้บริการในลักษณะดังกล่าว นอกจากนี้ การให้บริการเติมน้ำมันในลักษณะดังกล่าวไม่สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยของโออาร์ 

ดังนั้น การให้บริการเติมน้ำมันตามที่ระบุในคลิปว่าเป็นการรับน้ำมันมาจากโออาร์ (หรือ ปตท.) จึงเป็นการแอบอ้างโดยเป็นการกล่าวแบบลอย ๆ ไม่ปรากฏหลักฐานที่น่าเชื่อถือที่แสดงให้เห็นว่ามีการรับน้ำมันมาจาก โออาร์ (หรือ ปตท.) หรือโออาร์ มีส่วนเกี่ยวข้องในประการใด และโออาร์ ขอย้ำว่า โออาร์ไม่มีนโยบายหรือแนวทางที่ประสงค์จะดำเนินธุรกิจในลักษณะดังกล่าว นอกจากนี้ การจำหน่ายน้ำมันดีเซล 100% (น้ำมัน HSD B0) ในประเทศไทย จะต้องได้รับการอนุมัติจากกรมธุรกิจพลังงานเท่านั้น ไม่สามารถจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไปได้โดยพลการ

สำหรับประเด็นราคาที่ขายถูกกว่าราคาน้ำมันในประเทศไทยถึง 10 บาทนั้น มีความเป็นไปได้ว่าเป็นการกล่าวอ้างโดยการอ้างอิงกับราคาน้ำมันส่งออก ซึ่งเป็นราคาที่ยังไม่รวมภาษีและกองทุนที่ภาครัฐเรียกเก็บ อีกทั้งยังไม่ใช่การอ้างอิงราคาที่จำหน่ายในประเทศปลายทาง ซึ่งมักจะต้องมีส่วนของภาษีที่รัฐบาลประเทศนั้น ๆ เรียกเก็บรวมอยู่ด้วย จึงมีความเป็นไปได้ว่าการกล่าวอ้างราคาน้ำมันที่ถูกกว่าราคาที่ควรเป็นค่อนข้างมาก จะเป็นการอ้างข้อมูลราคาที่เป็นเท็จหรือเป็นการจำหน่ายน้ำมันผ่านช่องทางให้บริการที่ผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ โครงสร้างราคาน้ำมันของประเทศไทย สามารถแบ่งคร่าว ๆ ออกได้เป็น 3 ส่วน โดยส่วนแรก คือ ต้นทุนของเนื้อน้ำมันจากโรงกลั่น ซึ่งอ้างอิงมาจากราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ เคลื่อนไหวขึ้น-ลง ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยในช่วงวันที่ 19 ตุลาคม 2564 (ช่วงเวลาเดียวกับในคลิป) มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 75% ส่วนที่ 2 คือ ภาษีและเงินนำส่งกองทุนต่าง ๆ ที่ภาครัฐบาลเรียกเก็บ โดยมีสัดส่วนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 23% ประกอบด้วย ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล หรือ “ภาษีบำรุงท้องถิ่น” และภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเรียกเก็บโดยกระทรวงการคลัง เพื่อนำไปใช้เป็นงบประมาณในการพัฒนาประเทศ และกระทรวงพลังงานมีการจัดเก็บเงินเข้า “กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง” เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน และ “กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนที่ 3 คือ ค่าการตลาดของผู้ประกอบการ (Marketing Margin) มีสัดส่วนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2% ซึ่งยังไม่ใช่กำไรสุทธิ แต่เป็นรายได้จากการขายน้ำมันที่สถานีบริการ ซึ่งยังไม่ได้หักค่าใช้จ่ายใด ๆ 

โครงสร้างราคาน้ำมันสามารถตรวจสอบได้จาก http://www.eppo.go.th/index.php/th/petroleum/price/structure-oil-price 

website stamp 3685

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.pttplc.com หรือโทร. 1365 Contact Center

บทสรุปของเรื่องนี้ : ปตท. หรือ โออาร์ ไม่ได้จำหน่ายน้ำมันเพื่อให้บริการเติมน้ำมันให้เรือขนส่งที่กลางแม่น้ำโขงตามที่ระบุในคลิป และไม่มีคู่ค้าที่ดำเนินธุรกิจให้บริการในลักษณะดังกล่าว นอกจากนี้ การให้บริการเติมน้ำมันในลักษณะดังกล่าวไม่สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยของโออาร์ อีกทั้งการกล่าวอ้างราคาน้ำมันที่ถูกกว่าราคาที่ควรเป็นค่อนข้างมากอาจเป็นการอ้างข้อมูลราคาที่เป็นเท็จ หรือเป็นการจำหน่ายน้ำมันผ่านช่องทางให้บริการที่ผิดกฎหมาย

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด