ตามที่มีการส่งต่อข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวประเด็นเรื่อง ปตท. แยกธุรกิจ PTTOR ให้เป็นเอกชนเต็มตัว เพื่อให้ขึ้นราคาน้ำมันได้ง่าย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กระทรวงพลังงาน พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
กรณีการโพสต์ข้อความระบุว่า ปตท. แยกธุรกิจ PTTOR ให้เป็นเอกชนเต็มตัว เพื่อให้ขึ้นราคาน้ำมันได้ง่าย ทางบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ ปตท. ถือหุ้นทั้งหมด ได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในช่วงต้นปี 2564 ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความคล่องตัวในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านกลไกตลาดทุน และช่วยให้ OR สามารถแข่งขันได้อย่างเต็มที่ ดังเช่นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั่วไป โดย ปตท. ยังคงสัดส่วนการถือหุ้น OR ที่ 75% ทำให้ OR มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ และนำรายได้ส่งรัฐ เช่นเดียวกับ ปตท.สผ. การท่าอากาศยาน MCOT เป็นต้น
ซึ่งการกระจายหุ้น OR มุ่งเน้นให้คนไทยทุกคนมีโอกาสได้ร่วมเป็นเจ้าของ OR โดยใช้วิธีกระจายหุ้นไปอย่างทั่วถึง ให้ถึงมือนักลงทุนรายย่อยมากที่สุด ซึ่ง OR มีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนกว่า 5 แสนราย อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้คนไทยรู้จักเรื่องของการลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ตลาดน้ำมันในประเทศไทยเป็นตลาดเสรี การปรับราคาน้ำมันของ OR เป็นไปตามต้นทุนน้ำมันที่เปลี่ยนแปลงไปตามการขึ้นลงของราคาน้ำมันในตลาดโลกและปัจจัยอื่น ๆ เช่นเดียวกับผู้ค้ามาตรา 7 รายอื่น ๆ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่ OR เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แต่อย่างใด
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.pttplc.com/th/Home.aspx
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ปตท. ยังคงสัดส่วนการถือหุ้น ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือ OR ที่ 75% ทำให้ OR มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ และนำรายได้ส่งรัฐ อีกทั้งการปรับราคาน้ำมันของ OR เป็นไปตามต้นทุนน้ำมันที่เปลี่ยนแปลงไปตามการขึ้นลงของราคาน้ำมันในตลาดโลกและปัจจัยอื่น ๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่ OR เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แต่อย่างใด
