Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

จำนวนผู้เข้าชม 29,722,573

ข่าวปลอม อย่าแชร์! คำสั่งจากศธ. ห้ามให้น.ร.ติด 0 ขอแค่ให้มาเรียนก็ได้เกรด 1

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในเรื่องคำสั่งจากศธ. ห้ามให้น.ร.ติด 0 ขอแค่ให้มาเรียนก็ได้เกรด 1 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีที่มีการเผยแพร่ว่า ผอ. อ้างคำสั่งจากศธ. ห้ามให้น.ร.ติด 0 ขอแค่ให้มาเรียนก็ได้เกรด 1 ทางสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีหนังสือซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลการเรียนรู้และการสอนซ่อมเสริมโดยมีเจตนากระตุ้นให้สถานศึกษากำกับ ติดตาม ช่วยเหลือ สอนซ่อมเสริมและดำเนินการวัดและประเมินผลกรณีนักเรียนมีผลการเรียนไม่สมบูรณ์ (ติด 0 ร มส.) เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย เรียนดี มีความสุข ของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาทั้งผู้เรียน ผู้สอน  เพื่อให้การเรียนดีขึ้น ลดปัญหาของผู้เรียนในการติด 0 ร มส. 

การที่นักเรียนจะได้รับการตัดสินผลการเรียน ต้องมาจาก 2 ส่วน ได้แก่

1) เวลาเรียน ซึ่งกำหนดให้ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียน เป็นการมุ่งหวังให้ผู้สอนมีเวลาในการพัฒนาผู้เรียน และเติมเต็มศักยภาพของผู้เรียน และเพื่อให้การจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ 

2) คะแนนการประเมินระหว่างเรียนและคะแนนปลายปี/ปลายภาค ซึ่งการประเมินผลการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้นั้น เป็นการประเมินความรู้ความสามารถ ทักษะ เจตคติ ทักษะการคิด ที่กำหนดอยู่ในมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะนำไปสู่การสรุปผลการเรียนรู้ของผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดต่อไป ซึ่งการกำหนดสัดส่วนคะแนนระหว่างเรียนกับคะแนนปลายปี/ปลายภาค นั้นให้ความสำคัญของคะแนนระหว่างเรียนมากกว่าคะแนนปลายปี/ปลายภาค เช่น 60 : 40, 70: 30, 80 : 20 เป็นต้น 

website stamp 3868

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://www.ops.moe.go.th หรือโทร. 02 281 9264

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง การที่นักเรียนจะได้รับการตัดสินผลการเรียน ต้องมาจาก 2 ส่วน ได้แก่ เวลาเรียน และคะแนนการประเมินระหว่างเรียนและคะแนนปลายปี/ปลายภาค โดยการส่งหนังสือซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลเพื่อต้องการให้โรงเรียนแก้ปัญหา ติด 0 ร มส. แบบเร่งแก้ไขให้จบในต่อปีนั้น

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด