ตามที่มีการส่งต่อข้อมูลในประเด็นเรื่องกัมพูชาติดต่อขอให้ประเทศไทยเปิดสอนภาษาเขมรในโรงเรียน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกลุ่มสารนิเทศ สำนักอำนวยการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
ในกรณีที่มีการกล่าวถึงข่าวสารกัมพูชาขอให้ไทยเปิดสอนภาษาเขมรในโรงเรียนนั้น ทางกลุ่มสารนิเทศ สำนักอำนวยการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการได้ชี้แจงว่า กระทรวงศึกษาธิการ ไม่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการจากประเทศกัมพูชาในประเด็นดังกล่าว โดยข้อมูลการสอนภาษาต่างประเทศในสถานศึกษา ปกติทางโรงเรียนสามารถจัดการเรียนการสอนภาษาที่ 3 ได้อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับความพร้อมของโรงเรียน หากมีครูพร้อมสอน มีความต้องการของผู้เรียนก็สามารถจัดการเรียนการสอนภาษาที่ต้องการได้
นอกจากนี้กระทรวงศึกษาธิการยังได้ประกาศให้จัดการเรียนการสอนหลักสูตรอาเซียนศึกษาไว้รองรับการก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียนของไทยอย่างเต็มตัว ทั้งในโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งข้อมูลปีการศึกษา 2565 ภาคเรียนที่ 1 มีจำนวนนักเรียนสัญชาติกัมพูชาทั้งสิ้น จำนวน 31,746 คน ทั้งเป็นชาวกัมพูชาที่เข้ามาอย่างถูกกฎหมาย ผู้อพยพเชื้อสายกัมพูชา ผู้หลบหนีเข้าเมือง และผู้ใช้แรงงาน จึงสามารถการจัดการเรียนการสอนภาษากัมพูชาในโรงเรียนได้ตามความต้องการของแต่ละสถานศึกษา หรือจะเปิดสอนภาษาอื่นในอาเซียนก็ได้ เช่น Bahasa ที่ใช้ในมาเลเซียและอินโดนีเซีย ภาษาลาว ภาษาเวียดนาม เป็นต้น
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ สามารถติดตามได้ที่ http://www.ops.moe.go.th/ หรือโทร. 02-628-6346
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : กระทรวงศึกษาธิการ ไม่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการจากประเทศกัมพูชาในประเด็นดังกล่าว โดยปกติทางโรงเรียนสามารถจัดการเรียนการสอนภาษาที่ 3 ได้อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับความพร้อมของโรงเรียน หากมีครูพร้อมสอน มีความต้องการของผู้เรียนก็สามารถจัดการเรียนการสอนภาษาที่ต้องการได้
