ตามที่มีการส่งต่อข้อความเกี่ยวกับเรื่อง กฟผ. แบกรับภาระจ่ายค่า FT 1.2 แสนล้านบาท ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟต้องจ่ายคืนผ่านค่าไฟที่แพงกว่าความจริง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กระทรวงพลังงาน พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากที่มีผู้ให้ข้อมูลว่า กฟผ. แบกรับภาระจ่ายค่า FT 1.2 แสนล้านบาท ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟต้องจ่ายคืน กฟผ. ผ่านค่าไฟที่จะเก็บแพงกว่าความเป็นจริง ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กระทรวงพลังงาน ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง เมื่อ 18 กันยายน 2566 ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบปรับลดค่าไฟฟ้างวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 เหลือหน่วยละ 3.99 บาท จากเดิมหน่วยละ 4.45 บาท
ซึ่งเป็นการคำนวณที่สะท้อนถึงต้นทุนที่แท้จริงตาม พรบ. การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 มาตรา 65 และประกาศ กกพ. เรื่องกระบวนการ ขั้นตอนการใช้สูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ พ.ศ. 2565 นั้น เป็นผลให้เกิดส่วนต่างหน่วยละ 46 สตางค์ ซึ่ง กฟผ. ได้แบกรับภาระค่าเชื้อเพลิงเพื่อแบ่งเบาภาระของประชาชนโดยไม่ได้มีการเรียกเก็บคืนเงินคืนจากผู้ใช้ไฟในงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 แต่อย่างใด
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์อัตราค่าไฟฟ้า ถูกกำหนดโดย คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สามารถติดตามได้ที่ การไฟฟ้าใกล้ท่าน และ www.egat.co.th หรือ โทร. 02-436-0000 , สายด่วน 1416
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง การลดค่าไฟในเดือน ก.ย.-ธ.ค 66 นั้น เป็นไปตามมติ ครม. และเป็นการคำนวณต้นทุนจริงตาม พรบ. ประกอบการ ม.65 พ.ศ. 50 ซึ่งทาง กฟผ. เป็นผู้แบกรับค่าเชื้อเพลิง 46 สต. โดยไม่เรียกคืนจากประชาชน
