ข่าวบิดเบือน 10 ประเทศ ประกาศให้โควิด 19 เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และยกเลิกกระบวนการกักกัน รวมถึงการฉีดวัคซีนภาคบังคับ

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับประเดนเรื่อง 10 ประเทศ ประกาศให้โควิด 19 เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และยกเลิกกระบวนการกักกัน รวมถึงการฉีดวัคซีนภาคบังคับ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน

กรณีการโพสต์ข้อมูลที่ระบุว่า 10 ประเทศต่อไปนี้ประกาศยกเลิกกระบวนการกักกันทั้งหมด และการฉีดวัคซีนภาคบังคับ รวมถึงประกาศให้โควิด 19 เป็นเพียงไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ซึ่งประกอบด้วยประเทศตุรกี บราซิล สหราชอาณาจักร สวีเดน สเปน สาธารณรัฐเช็ก เม็กซิโก เอลซัลวาดอร์ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์นั้น ทางกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงรายละเอียดแต่ละประเทศว่า
1. ประเทศตุรกี ยังไม่มีการพิจารณาให้โควิด 19 เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
2. ประเทศบราซิลไม่มีมาตรการกักตัวสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ และยังคงจัดให้โควิด 19 เป็นโรคระบาด ไม่ใช่โรคท้องถิ่น
3. สหราชอาณาจักร ซึ่งปัจจุบันยังคงมาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าประเทศ โดยนำเรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 มาประกอบการคัดครอง รวมทั้งดำเนินนโยบายเชิญชวนให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุดตามความสมัครใจ โดยไม่เคยออกนโยบายบังคับการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด
4. ประเทศสวีเดน นับตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2565 ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับการยกเว้นจากมาตรการห้ามเข้าประเทศ(entry ban) เนื่องจากเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนของไทยเทียบเท่ากับเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนของสหภาพยุโรป ดังนั้นผู้ที่มีเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนที่ออกโดยทางการไทยจึงสามารถเดินทางเข้าสวีเดนได้โดยไม่ต้องแสดงผลการตรวจโควิด 19 โดยต้องเป็นใบรับรองการฉีดวัคซีนที่มี QR Code ที่สแกนได้ฉีดครบโดสมาไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนเดินทาง และเป็นวัคซีนที่ได้รับรองจากสหภาพยุโรป หรือองค์การอนามัยโลก
5. ประเทศสเปน ไม่มีการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกกรณี และไม่มีการประกาศว่าโควิด 19 เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล รวมถึงไม่มีการบังคับฉีดวัคซีน ซึ่งสเปนยังคงมาตรการสำหรับผู้เดินทางจากต่างประเทศในประเทศกลุ่มเสี่ยง รวมถึงประเทศไทย ต้องลงทะเบียน และแสดงเอกสารการตรวจโควิด 19 หรือเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน อย่างใดอย่างหนึ่ง
6. สาธารณรัฐเช็ก ได้ยกเลิกมาตรการการแยกกักตัว (isolation) สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศแล้ว แต่ยังมิได้ยกเลิกการกักกันทั้งหมด ซึ่งผู้ที่มีการสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อโควิด 19 ยังต้องกักกัน ทั้งนี้เช็กมีแนวทางที่จะจัดระบบการฉีดวัคซีนให้อยู่ในลักษณะเดียวกันกับไข้หวัดใหญ่
7. ประเทศเม็กซิโก ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 จนถึงปัจจุบัน เม็กซิโกไม่มีนโยบายปิดประเทศหรือขอรับเอกสารผลตรวจโควิด 19 และ/หรือใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 รวมทั้งไม่มีมาตรการกักตัวผู้โดยสาร ทั้งนี้ยังไม่มีประกาศจากเม็กซิโกว่าโควิดเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
8. เอลซัลวาดอร์ ยังไม่มีประกาศว่าโควิด 19 เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
9. ประเทศญี่ปุ่น ยังคงมีมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าประเทศ และยังมีนโยบายการฉีดวัคซีนให้ผู้ที่อาศัยในญี่ปุ่นตามปกติ
10 ประเทศสิงคโปร์ อนุญาตให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบเเล้ว เเละผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด 19 เดินทางเข้าสิงคโปร์โดยไม่ต้องกักตัว แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่กำหนด

ทั้งนี้แนะนำให้ผู้เดินทางตรวจสอบมาตรการเดินทางเข้าประเทศกับสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เนื่องจากมาตรการดังกล่าวอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาตามสถานการณ์

ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกกระทรวงการต่างประเทศ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.mfa.go.th หรือโทร 02 2035000

บทสรุปของเรื่องนี้ : ปัจจุบันมีเพียงประเทศบราซิล สเปน และเม็กซิโกที่ไม่มีมาตรการกักตัว ซึ่งทั้ง 10 ประเทศมีการเชิญชวนให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน และไม่มีการประกาศให้โควิด 19 เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ทั้งนี้มาตรการเดินทางเข้าประเทศอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาตามสถานการณ์ ผู้เดินทางตรวจสอบมาตรการเดินทางเข้าประเทศทุกครั้ง