mobile-menu
search icon mobile
search on header

<p>

จำนวนผู้เข้าชม 21,065,412
</p>

ข่าวบิดเบือน ระบบส่งน้ำเขื่อนแม่ออนชำรุด ข้าวยืนต้นตายกว่า 200 ไร่

ตามที่มีผู้แชร์ข่าวสารประเด็นเรื่องระบบส่งน้ำเขื่อนแม่ออนชำรุด ข้าวยืนต้นตายกว่า 200 ไร่ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน

กรณีที่มีการส่งต่อข่าวสารว่า ระบบส่งน้ำเขื่อนแม่ออนชำรุด ข้าวยืนต้นตายกว่า 200 ไร่ ทางกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ในช่วงต้นฤดูแล้งที่ผ่านมา โครงการชลประทานเชียงใหม่ร่วมกับคณะกรรมการกลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ออน ได้ประชุมวางแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งปี 2566/2567 โดยมีการประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนแก่สมาชิกเกษตรกร ขอความร่วมมือและส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทนการเพาะปลูกข้าวนาปรังเนื่องจากข้าวนาปรังใช้น้ำมาก ประกอบกับปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่ไม่เพียงพอ จำเป็นต้องเก็บน้ำสำรองไว้เพื่อการอุปโภคบริโภคและเพาะปลูกข้าวนาปีในช่วงต้นฤดูฝนปี 2567

ขณะเดียวกันในที่ประชุมได้มีข้อตกลงร่วมกัน หากเกษตรกรที่ต้องการเพาะปลูกข้าวนาปรัง จำเป็นต้องมีแหล่งน้ำเป็นของตนเอง หรือมีพื้นที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ หากเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำ เกษตรกรจะต้องยอมรับความเสี่ยงนั้นเอง ซึ่งภายหลังจากการประชุม ได้มีการสำรวจความต้องการเพาะปลูกข้าวนาปรังอีกครั้ง จากเดิมที่มีแผนเพาะปลูกข้าวนาปรังเพียง 242 ไร่ แต่กลับพบว่า มีเกษตรกรเพาะปลูกข้าวนาปรังไปแล้วทั้งสิ้น 918 ไร่ ซึ่งเกินจากแผนที่กำหนด ทำให้เกิดความเสี่ยงที่ผลผลิตอาจจะได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลจากแหล่งน้ำ

ต่อมาในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 พบว่า ท่อส่งน้ำของอาคารระบายน้ำลงลำน้ำเดิมของอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ออนชำรุดเสียหาย เนื่องจากมีการใช้งานมานานมากกว่า 20 ปี โครงการชลประทานเชียงใหม่ จึงได้ดำเนินการซ่อมแซมในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 ส่งผลให้ต้องหยุดการส่งน้ำ โดยได้มีการแจ้งไปยังเกษตรกรให้รับทราบโดยทั่วกันแล้ว พร้อมกันนี้ยังได้ดำเนินการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน จนสามารถส่งน้ำได้ตามปกติเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งระหว่างการซ่อมแซม โครงการชลประทานเชียงใหม่ร่วมกับองค์กรปกครองท้องถิ่น ได้ให้การช่วยเหลือสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ จำนวน 3 เครื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าว

หลังจากนั้น โครงการชลประทานเชียงใหม่ ร่วมกับคณะกรรมการกลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ออน ได้ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรังในเขตส่งน้ำของอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ออน พบว่า ข้าวนาปรังในพื้นที่ตำบลออนกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำของเหมืองเบอร์ 8 ได้รับความเสียหายประมาณ 50 ไร่ เหมืองเบอร์ 9 ประมาณ 60 ไร่ และเหมืองเบอร์ 10 ประมาณ 50 ไร่ โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เพาะปลูกนอกแผนการเพาะปลูกที่วางไว้ และบางส่วนมีการปลูกล่าช้า ซึ่งโครงการชลประทานเชียงใหม่ได้ปรับแผนการส่งน้ำใหม่ เพื่อช่วยเหลือ
เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม เป็นต้นมา ด้วยการเพิ่มรอบเวรการส่งน้ำจากเดิม 2 วัน เป็น 3-4 วัน ในอัตรา 45,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน คาดว่า พื้นที่นาปรังที่เหลืออยู่จะไม่ได้รับความเสียหายและสามารถเก็บเกี่ยวได้ประมาณกลางเดือนเมษายนนี้

website stamp 4714

ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าวเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.rid.go.th หรือโทรสายด่วน 1460

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ท่อส่งน้ำของอาคารระบายน้ำลงลำน้ำเดิมของอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ออนชำรุดเสียหาย ในช่วงต้นเดือน ก.พ. 67 โครงการชลประทานเชียงใหม่ได้ซ่อมแซมจนสามารถส่งน้ำได้ตามปกติเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 67 ทั้งนี้ จากการสำรวจพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรังในเขตส่งน้ำของอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ออน พบว่า ข้าวนาปรังในพื้นที่ตำบลออนกลาง ได้รับความเสียหายประมาณ 160 ไร่ โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่นอกแผนการเพาะปลูก ตามที่ได้มีข้อตกลงร่วมกันไว้กับเกษตรกร

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด