ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง คำแนะนำสำหรับคนที่ต้องการฉีดวัคซีน MODERNA เป็นเข็มกระตุ้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน
จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อความเกี่ยวกับคำแนะนำสำหรับคนที่ต้องการฉีดวัคซีน MODERNA เป็นเข็มกระตุ้น โดยกล่าวอ้างว่าเป็นคำแนะนำของ ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล นั้น ทางคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และชี้แจงว่าข้อความดังกล่าวบิดเบือนจากความเป็นจริง ใน 3 ประเด็นดังนี้
1. เนื้อหาบิดเบือนที่กล่าวว่า กรณีฉีด Sinovac ครบ 2 เข็มแล้ว หากกระตุ้นด้วย Moderna ควรฉีดอีก 2 เข็ม โดยอ้างชื่อ พญ. กุลกัญญา และมีเนื้อหาในเครื่องหมายคำพูด ‘ภูมิที่ได้จาก Sinovac ตกลงมากอย่างมีนัยสำคัญ ต่อสายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) จึงเทียบเท่ากับไม่ได้ฉีด-สำหรับสายพันธุ์นี้’ ทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่า พญ. กุลกัญญา แนะนำหรือเขียนเช่นนั้น ซึ่งไม่เป็นความจริง
– เนื้อหาที่ถูกต้อง คือ ผู้ที่ฉีดวัคซีน Sinovac รวมทั้งวัคซีนอื่นๆ ด้วย เมื่อฉีดครบ 2 เข็มแล้ว คาดว่าจะต้องฉีดกระตุ้น เพื่อรักษาระดับภูมิคุ้มกันที่จะตกลงตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป รวมทั้งเพื่อให้สามารถป้องกันเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ได้ดีขึ้นด้วย อย่างไรก็ดี การฉีดกระตุ้นนี้ยังไม่แน่ชัดว่า ควรฉีดเมื่อไหร่ แต่คาดว่าน่าจะหลังจากฉีดครบ 2 เข็มแล้ว อย่างน้อย 3-4 เดือน และยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ควรจะกระตุ้นด้วยวัคซีนตัวใดจึงจะเหมาะสม ทั้งหมดนี้ยังต้องรอการศึกษาที่จะได้ผลเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ในการฉีดกระตุ้นนั้น คาดว่าฉีดเพียงเข็มเดียวน่าจะเพียงพอ
2. เนื้อหาบิดเบือนที่กล่าวว่า แต่ถ้าฉีด Sinovac เป็นเข็มแรก ยังไม่แนะนำให้ตามด้วย Moderna เป็นเข็มที่ 2 (เนื่องจากไม่มีงานวิจัยรับรอง) ยกเว้นว่า จะเริ่มใหม่เลย คือฉีด Moderna อีก 2 เข็มไปเลย
– เนื้อหาที่ถูกต้อง คือ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนที่จะให้คำแนะนำเหล่านี้ในขณะนี้ แต่ถ้าจะเปลี่ยนชนิดของวัคซีนในเข็มที่ 2 ตามความจำเป็น เช่น แพ้เข็มที่ 1 ก็สามารถทำได้ โดยนับต่อเป็นเข็มที่ 2 ได้เลย ไม่ต้องมาเริ่มฉีดใหม่
3. เนื้อหาบิดเบือนที่กล่าวว่า กรณีฉีด AstraZeneca ครบ 2 เข็มแล้ว หากกระตุ้นด้วย Moderna ฉีดเพิ่มอีก 1 เข็ม (ตามผลวิจัย)
– เนื้อหาที่ถูกต้อง ยังไม่มีรายงานผลการวิจัยที่อ้างถึง
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.si.mahidol.ac.th/th
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เนื้อหาที่นำมาแชร์ โดยกล่าวอ้างว่าเป็นคำแนะนำของ ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล นั้น บิดเบือนจากความเป็นจริง
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
