การติดเชื้อพยาธิตืดหมู สามารถทำให้เกิดสองภาวะสำคัญ คือ เทเนียซิส ซึ่งเกิดจากการติดตัวเต็มวัยในลำไส้ และซิสติเซอร์โคซิส ซึ่งเกิดจากการที่ตัวอ่อนหรือซีสต์ของพยาธิแพร่กระจายไปฝังในเนื้อเยื่อของร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อ ดวงตา และสมอง ภาวะซีสต์ในสมอง เป็นรูปแบบที่รุนแรงที่สุด ส่งผลให้เกิดอาการชัก ปวดศีรษะเรื้อรัง และความผิดปกติทางระบบประสาท
เส้นทางการติดเชื้อสามารถเกิดได้จากการบริโภคเนื้อหมูที่ปรุงไม่สุก ซึ่งมีตัวอ่อนของพยาธิ หรือจากการบริโภคไข่ของพยาธิที่ปนเปื้อนในอาหาร น้ำดื่ม หรือมือที่ไม่สะอาด โดยเฉพาะผักและผลไม้สดที่ปลูกในดินซึ่งอาจปนเปื้อนอุจจาระมนุษย์ที่มีไข่พยาธิ การล้างผักผลไม้ไม่สะอาดก่อนบริโภคจึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้คำแนะนำว่า การป้องกันการติดเชื้อพยาธิตืดหมูควรเน้นมาตรการสุขอนามัยอาหารและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การล้างผักผลไม้ด้วยน้ำไหลสะอาดหลายรอบ อาจใช้สารช่วยล้าง เช่น น้ำเกลือหรือน้ำส้มสายชูเจือจาง รวมถึงการปรุงเนื้อหมูให้สุกทั่วถึง โดยเนื้อชิ้นควรมีอุณหภูมิอย่างน้อย 63°C และเนื้อบดอย่างน้อย 71°C พร้อมทั้งการล้างมือด้วยสบู่ก่อนเตรียมและก่อนรับประทานอาหาร รวมถึงหลังการขับถ่าย นอกจากนี้ การสังเกตเนื้อหมูก่อนบริโภคเป็นสิ่งสำคัญ หากพบจุดขาวคล้ายเม็ดสาคูบนเนื้อหมู ซึ่งอาจเป็นตัวอ่อนของพยาธิ ควรหลีกเลี่ยงไม่รับประทาน
