กรมอนามัย ได้ให้ข้อมูลในประเด็นดังกล่าวว่าเป็น “ข้อมูลบิดเบือน”
แม้ว่าจากการตรวจสอบข้อมูล จะพบว่า น้ำเต้าหู้ หรือนมถั่วเหลือง มีสารไอโซฟลาโวน (Isoflavones) ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน (Phytoestrogen) แต่มีในปริมาณที่น้อยมาก ๆ ดังนั้น ถ้าดื่มในปริมาณที่เหมาะสม เช่น ประมาณ 1-2 แก้วต่อวัน ก็แทบไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหรือระบบประจำเดือนแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น ชนิดและปริมาณของถั่วเหลือง ปริมาณไอโซฟลาโวน และความแตกต่างในการตอบสนองของร่างกายแต่ละคนที่ต่างกัน แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานว่า การดื่มน้ำเต้าหู้ จะส่งผลให้ประจำเดือนผิดปกติ ดังที่มีการส่งต่อข้อมูลบนโลกออนไลน์
การดูแลสุขภาพโดยอาศัยข้อมูลที่ถูกต้อง จะช่วยป้องกันความเข้าใจผิด และลดความกังวลที่ไม่จำเป็นลงได้
อย่าหลงเชื่อข้อมูลสุขภาพผิด ๆ




