Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

จำนวนผู้เข้าชม 29,935,308
ข่าวจริง
ภัยพิบัติ

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ในเดือนเม.ย. มีน้ำเหลือ 213.85 ล้าน ลบ.ม. หรือ 22% ของความจุอ่าง จริงหรือ?

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในประเด็นเรื่องเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ในเดือนเม.ย. มีน้ำเหลือ 213.85 ล้าน ลบ.ม. หรือ 22% ของความจุอ่าง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นเขื่อนเก็บกักน้ำ 1 ใน 4 เขื่อนหลัก ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยในช่วงฤดูฝนปี 2566 ที่ผ่านมา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์สามารถเก็บกักน้ำ ได้ประมาณ 1,019 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) หรือคิดเป็นร้อยละ 106 ของความจุอ่างฯ ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าวจะเป็นน้ำต้นทุน เพื่อใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดช่วงฤดูแล้งปี 2566/67 รวมระยะเวลาทั้งสิ้นกว่า 6 เดือน (1 พฤศจิกายน 2566-30 เมษายน 2567) รวมไปถึงเป็นน้ำต้นทุนเพื่อสำรองไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝน กรณีที่เกิดฝนทิ้งช่วงหรือฝนยังตกไม่สม่ำเสมอ ในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2567 อีกด้วย

โดยกรมชลประทานได้วางแผนบริหารจัดการน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในช่วงฤดูแล้งปี 2566/67 (1 พฤศจิกายน 2566-30 เมษายน 2567) เพื่อสนับสนุนการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศน์ การเกษตร การอุตสาหกรรม และอื่น ๆ รวมปริมาณน้ำทั้งสิ้นกว่า 800 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากมีการใช้น้ำตลอดช่วงฤดูแล้งรวมทั้งสิ้นกว่า 6 เดือน ประกอบกับสภาพอากาศที่มีความร้อนสูง จึงทำให้ปริมาณน้ำลดลงตามลำดับ โดย ณ วันที่ 6 มกราคม 2567 มีปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ประมาณ 771.80 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ และในวันที่ 19 เมษายน 2567 มีปริมาณน้ำคงเหลืออยู่ที่ประมาณ 213.85 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 22 ของความจุอ่างฯ

ปัจจุบัน (1 พ.ค .67) ได้สิ้นสุดการบริหารจัดการน้ำในฤดูแล้งปี 2566/67 แล้ว พบว่าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 159.95 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 17 ของความจุอ่างฯ ซึ่งเพียงพอที่จะสนับสนุนการใช้น้ำในช่วงต้นฤดูฝนกรณีที่เกิดภาวะช่วงฝนทิ้งช่วง ตามแผนจัดสรรน้ำในช่วงฤดูฝนปี 2567 ที่วางไว้ อีกทั้งยังเป็นการเตรียมพื้นที่อ่างเก็บน้ำไว้สำหรับรองรับน้ำฝนในช่วงฤดูฝนปี 2567 ที่จะมาถึงนี้ได้อย่างเต็มศักยภาพอีกด้วย

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมชลประทาน สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.rid.go.th หรือโทร. สายด่วน 1460

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด