จากกรณีที่มีผู้ออกมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องวุ้นในตาเสื่อม เสี่ยงการสูญเสียการมองเห็นแบบถาวร ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
วุ้นตา เป็นตัวกลางให้แสงและภาพผ่านเข้าสู่จอประสาทตา มีลักษณะเป็นเจลใสอยู่ระหว่างเลนส์ตาและจอประสาทตา วุ้นตาประกอบด้วยน้ำร้อยละ 95-98% และเส้นใยคอลลาเจน 2-5% การเสื่อมของวุ้นตาเป็นภาวะที่พบได้ทั่วไปในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งอาจเกิดขึ้นโดยไม่มีอันตรายหรือทำให้เกิดโรคของจอประสาทตาร้ายแรงตามมาจนทำให้สูญเสียการมองเห็นได้
ปัจจัยที่ทำให้วุ้นตาเสื่อม ได้แก่ อายุที่เพิ่มขึ้น สายตาสั้น อุบัติเหตุกับดวงตา การอักเสบในวุ้นตาและจอตา และภาวะเบาหวานขึ้นตา เป็นต้น
การเสื่อมของวุ้นตาในระยะเริ่มต้น : วุ้นตามีการเสื่อมและจับตัวกันเป็นก้อน ทำให้เกิดเป็นตะกอนในวุ้นตา ผู้ป่วยจะมีอาการเห็นเป็นเงาดำ หยากไย่ลอยไปมาเคลื่อนที่ตามการกลอกตา ในระยะนี้ไม่จำเป็นต้องรักษา แต่ควรติดตามสังเกต
อาการเป็นระยะ ๆ หลีกเลี่ยงการสะบัดศีรษะรุนแรงและอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับดวงตา
ระยะที่วุ้นตาแยกตัวจากจอประสาทตา : ระยะนี้อาจเกิดตามหลังการเสื่อมของวุ้นตาระยะต้นภายในหลายวันจนถึงหลายปี สาเหตุมาจากวุ้นตามีการเสื่อมมากขึ้นร่วมกับมีการหดตัวของวุ้นตามากขึ้นเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งหากการหดตัวของวุ้นตา
นี้มีการดึงรั้งจอประสาทตาทำให้เกิดการฉีกขาดของจอประสาทตาตามมาด้วย ผู้ป่วยจะมีอาการเห็นหยากไย่ลอยไปมามากขึ้นร่วมกับเห็นแสงคล้ายแฟลชเมื่อกลอกตา ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาด้วยการยิงเลเซอร์อาจทำให้เกิดการหลุดลอก
ของจอประสาทตาส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นได้
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่ Facebook Fanpage : รพ.เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) หรือโทร 034 225818
