Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

จำนวนผู้เข้าชม 29,724,241

ข่าวปลอม อย่าแชร์! ใช้น้ำมัน E85 ขัดผิวหลังคอ ทำให้คราบดำที่คอออกได้ไวขึ้น

ตามที่ได้มีการส่งต่อข้อมูลในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องใช้น้ำมัน E85 ขัดผิวหลังคอ ทำให้คราบดำที่คอออกได้ไวขึ้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีที่มีคลิปวิดีโอแนะนำถึงการใช้น้ำมัน E85 ขัดหลังคอ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้คราบที่คอ ออกได้ไวขึ้นนั้น ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า การเอาน้ำมัน E85 มาขัดฟอกบริเวณรอยโรคนั้นไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะไม่ช่วยรักษารอยโรคแล้วอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เนื่องจากน้ำมัน E85 มีส่วนประกอบของเอทานอล 85% และน้ำมันเบนซิน 15% ซึ่งเมื่อสัมผัสกับผิวหนังโดยตรงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวอย่างรุนแรงได้ หรือการสูดดมเข้าไปมากๆ อาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ในระยะยาวอาจมีผลต่อระบบประสาทกับทางเดินหายใจด้วย

ทั้งนี้ ผิวหนังที่มีลักษณะสีดำคล้ำ เป็นปื้น ผิวมีความหนา ลักษณะคล้ายกำมะหยี่ ซึ่งมักจะพบบ่อยบริเวณซอกพับของร่างกาย โดยบริเวณที่พบบ่อย ได้แก่ หลังคอ รักแร้ และขาหนีบ โดยเรียกโรคนี้ว่าโรคผิวหนังช้าง หรือ “Acanthosis nigricans รอยโรคของโรคผิวหนังช้างนี้ ส่วนใหญ่มักจะไม่มีอาการ” บางรายอาจมีอาการคันที่บริเวณรอยโรคได้บ้าง ลักษณะของโรคผิวหนังช้างมักจะสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคทางระบบฮอร์โมนและต่อมไร้ท่อ การมีระดับฮอร์โมนที่ผิดปกติ ยา และอาหารเสริมบางชนิด เช่น ไนอะซิน (niacin) ยาคุมกำเนิด ยากินเพรดนิโซโลน (prednisolone) และอาจจะสัมพันธ์กับกรรมพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีความสัมพันธ์กับมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งกระเพาะอาหาร การวินิจฉัยทางการแพทย์สามารถวินิจฉัยได้จากลักษณะของรอยโรค ร่วมกับการซักประวัติ ในส่วนของแนวทางการรักษานั้น การรักษาโรคหรือภาวะที่เป็นสาเหตุทำให้รอยโรคของโรคผิวหนังช้างดีขึ้นได้นั้น เช่นการออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร และหยุดใช้ยาที่อาจเป็นสาเหตุของโรค นอกจากนี้ อาจมีการใช้ยาทาหรือยากินบางกลุ่มก็สามารถช่วยให้รอยโรคทุเลาลงได้ ที่สำคัญคือควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองและหาสาเหตุของโรค เพื่อนำไปสู่การดูแลรักษาที่เหมาะสม

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.dms.go.th หรือโทร. 02-590-6000

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การเอาน้ำมัน E85 มาขัดฟอกบริเวณรอยโรคนั้นไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะไม่ช่วยรักษารอยโรคแล้วอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้

  หน่วยงานที่ตรวจสอบ

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด