ตามที่มีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องการเหวี่ยงแขนไปมา ช่วยป้องกันความจำเสื่อม ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีที่มีผู้โพสต์ข้อความระบุว่า การเหวี่ยงแขนไปมา ช่วยป้องกันความจำเสื่อม ทางสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า การออกกำลังกายด้วยการเหวี่ยงแขน ไม่ได้มีประโยชน์ในการเพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมองแต่อย่างใด และไม่มีหลักฐานสนับสนุนว่า สามารถลดความเสี่ยงสมองเสื่อมได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายด้วยวิธีการแบบโยคะเป็นที่นิยมกันมากขึ้นในปัจจุบัน การออกกำลังบริหารอย่างเหมาะสมและถูกวิธีจะช่วยทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นได้
ทั้งนี้ มีข้อควรระวังสำหรับการออกกำลังกายในคลิป ได้แก่ การสั่งน้ำมูกพ่นลมหายใจออกมาแบบรุนแรงถี่ เป็นการกระตุ้นกลไกของ Valsalva maneuver ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีโรคหลอดเลือดสมองหรือหลอดเลือดหัวใจบางอย่างด้วย และ การออกกำลังกายด้วยการเหวี่ยงแขนรุนแรงและรวดเร็วนั้น ปัจจุบันทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูไม่แนะนำให้ปฏิบัติเพราะเพิ่มความเสี่ยงทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ไหล่ เส้นเอ็นอักเสบ ข้อไหล่หลุด มากกว่าจะได้ประโยชน์
อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายที่มีหลักฐานว่า เหมาะสมสำหรับการชะลอสมองเสื่อมมากกว่า คือ การออกกำลังกายแบบใช้ออกซิเจน (Aerobic exercise) ที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ คือ การเดินเร็ว อย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ วันละไม่ต่ำกว่า 45 นาที จะช่วยให้สุขภาพร่างกายโดยรวมดี เลือดไหลเวียนสู่สมองและหัวใจได้ดี ลดความเสี่ยงโรคเมตาบอลิก ทำให้ลดโอกาสเกิดสมองเสื่อมได้ดีกว่า
ดังนั้นขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.pni.go.th หรือโทร. 02 3069899
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การออกกำลังกายด้วยการเหวี่ยงแขน ไม่ได้มีประโยชน์ในการเพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมองแต่อย่างใด และไม่มีหลักฐานสนับสนุนว่า สามารถลดความเสี่ยงสมองเสื่อมได้
