Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

จำนวนผู้เข้าชม 29,720,530

นายกฯ ดันแผนส่งเสริมลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เตรียมพร้อมเป็นฐานผลิตอาเซียน จริงหรือ?

จากที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเรื่องนายกฯ ดันแผนส่งเสริมลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เตรียมพร้อมเป็นฐานผลิตอาเซียน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลจริง

รัฐบาลเดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร เพื่อรักษาฐานการผลิตและศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอาเซียน ควบคู่ไปกับการดูแลอุตสาหกรรมยานยนต์สันดาป (ICE) เพื่อให้ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์สันดาปแห่งสุดท้าย

โดยในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามนโยบายการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ครั้งที่ 1/2566 มีมติเห็นชอบและรับทราบแนวทางการดำเนินงาน ทั้งความคืบหน้าการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ผ่านแนวทางการส่งเสริมการดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ (EV Conversion) แนวทางการส่งเสริม System Integrator (SI) สำหรับอุตสาหกรรมการผลิต และแนวทางการส่งเสริมและจัดการแบตเตอรี่ในประเทศ เพื่อกำหนดแนวทางที่เหมาะสม

ปัจจุบันมีผู้ผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนในประเทศเพิ่มขึ้น และได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (Battery Electric Vehicle :BEV) คิดเป็นมูลค่า 39,579 ล้านบาท กำลังผลิตรวม 359,000 คันต่อปี และผู้ที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนผลิตชิ้นส่วน มูลค่า 35,303 ล้านบาท โดยในช่วง 11 เดือนของปี 2566 มียอดจดทะเบียนรถไฟฟ้ารวม 67,056 คัน เติบโตมากกว่า 690% หรือ 7.9 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 8,483 คัน ทำให้ตลาดรถ EV ไทยเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือในรายละเอียด ข้อกฎหมาย และรับฟังเสียงสะท้อนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตามระเบียบขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภททั้งรถขนาดเล็ก เช่น รถจักรยานยนต์ รถยนต์ รถกระบะ ไปจนถึงรถขนาดใหญ่ เช่น รถโดยสาร รถบรรทุก และครอบคลุมไปจนถึงการส่งเสริมการผลิตและการจัดการซากตลอดช่วงชีวิตการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า (End of Life Vehicle : ELV)

นอกจากนี้ ยังมีอีก 3 แนวทางที่สำคัญ ได้แก่
1. แนวทางการส่งเสริมการดัดแปลงรถยนต์ (EV Conversion) สร้างต้นแบบการดัดแปลงรถขนาดใหญ่ให้เป็นยานยนต์ไฟฟ้า เช่น รถขนขยะมูลฝอย และรถบรรทุกน้ำ เพื่อสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศ ในราคาที่เหมาะสมและเข้าถึงได้
2. แนวทางการส่งเสริม System Integrator (SI) สำหรับอุตสาหกรรมการผลิต พัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในกระบวนการผลิตครอบคลุมมาตรการทางภาษีและมิใช่ภาษี เช่น พัฒนาบุคลากร SI จำนวน 1,301 คน และบุคลากรในสถานประกอบการ จำนวน 3,665 คน รวมทั้งพัฒนาต้นแบบหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ 185 ต้นแบบ ซึ่งปัจจุบันมี SI ที่ขึ้นทะเบียนรายกิจการ จำนวน 121 กิจการ ผ่านกลไกศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ Center of Robotics Excellence (CoRE) โดยมีผู้ประกอบการขอรับการส่งเสริมการลงทุนแล้ว จำนวน 271 กิจการ มูลค่ารวม 27,710 ล้านบาท
3. แนวทางการส่งเสริมและจัดการแบตเตอรี่ในประเทศ สร้างมูลค่าจากการจัดการแบตเตอรี่ใช้แล้วเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ตามนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน ประกอบด้วย การกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการนำมาใช้ซ้ำ และการนำกลับมาใช้ใหม่ เนื่องจากแบตเตอรี่มีมูลค่าสูง

website stamp 3708

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.prd.go.th หรือ โทร. 02-618-2323

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด