ปี 2568 ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรค SFTS (Severe Fever with Thrombocytopenia Syndrome) พบผู้เสียชีวิตจากเห็บกัด 3 ราย โรคนี้เกิดจากไวรัสที่มีเห็บเป็นพาหะนำโรค โดยสัตว์ที่เป็นแหล่งรังโรค ได้แก่ สุนัข แมว แพะ แกะ วัว ควาย หมูไก่ หนูและสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ วิธีป้องกันคือ หลีกเลี่ยงเห็บและเลี่ยงการสัมผัสเลือดสัตว์โดยตรง ทำความสะอาดที่อยู่อาศัย ใช้ยากำจัดเห็บ และอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยง เมื่อถูกกัดผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดกล้ามเนื้อ อาเจียน ถ่ายเหลว และเกล็ดเลือดต่ำ สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คน และสามารถติดต่อผ่านคนสู่คนได้ จากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อไวรัสแต่พบได้น้อย หากมีอาการให้รีบไปพบแพทย์พร้อมแจ้งอาการ
ในปีเดียวกันไทยยังพบผู้เสียชีวิต 8 ราย จากโรค สครับไทฟัส (Scrub Typhus) ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีไรอ่อนเป็นพาหะ ติดเชื้อผ่านการถูกกัด มีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ตาแดง มีผื่น และแผลบุ๋มคล้ายบุหรี่จี้ ป้องกันโดยสวมเสื้อผ้ามิดชิด หลีกเลี่ยงพื้นที่มีหญ้าและต้นไม้สูง ห้ามนั่งหรือนอนลงบนพื้นหญ้าโดยตรง อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายหลังสัมผัส
ทั้งสองโรคพบมากในภาคเหนือ–อีสาน ส่วนใหญ่มักเป็นเพศชาย ประกอบอาชีพเกษตรกร และมีโรคประจำตัว นอกจากนี้คอยสังเกตอาการ หากมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดกระบอกตา ตาแดง หรือตรวจพบแผลบุ๋มสีดำ รูปร่างกลมรีขอบนูนเรียบ คล้ายแผลถูกบุหรี่จี้ ภายใน 10 วันหลังกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง หากมีอาการควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
