Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

จำนวนผู้เข้าชม 30,663,003

ข่าวบิดเบือน กรมสรรพากรแก้กฎหมายลงทุนหุ้นนอก ไม่โอนเงินกลับไทย ก็เสียภาษี

จากที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเรื่องกรมสรรพากรแก้กฎหมายลงทุนหุ้นนอก ไม่โอนเงินกลับไทย ก็เสียภาษี ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน

กรณีที่มีการบอกต่อกันว่า กรมสรรพากรแก้กฎหมายลงทุนหุ้นนอก ไม่โอนเงินกลับไทย ก็เสียภาษี ทางกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ปัจจุบันกรมสรรพากรได้มีคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.161/2566 และ ป.162/2566 เรื่อง การเสียภาษีเงินได้ ตามมาตรา 41 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งเป็นการอธิบายหลักกฎหมายตามมาตรา 41 วรรคสองว่า บุคคลจะมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากแหล่งเงินได้ต่างประเทศ เมื่อเข้าองค์ประกอบ ดังต่อไปนี้

1. บุคคลมีเงินได้พึงประเมินจากแหล่งเงินได้ต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป ในปีภาษีที่อยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ 180 วันขึ้นไป
2. บุคคลนั้นได้นำเงินได้พึงประเมินนั้นเข้ามาในประเทศไทยในปีภาษีดังกล่าวหรือในปีภาษีต่อ ๆ มาภายหลัง

หากครบองค์ประกอบทั้ง 2 ข้อข้างต้น บุคคลนั้นมีหน้าที่ต้องนำเงินได้พึงประเมินนั้นมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษีที่ได้นำเงินได้พึงประเมินนั้นเข้ามาในประเทศไทย โดยไม่ได้มุ่งหมายที่จะบังคับแค่การลงทุนหุ้นนอกแต่อย่างใด

แก้กฎหมายลงทุนหุ้นนอก

ดังนั้นขอเตือนว่า ข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ เป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าวเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง สามารถติดตามได้ที่ https://www.rd.go.th หรือโทรสายด่วน 1161

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : บุคคลผู้มีเงินได้พึงประเมินจากแหล่งเงินได้ต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ซึ่งอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ 180 วันขึ้นไปในปีภาษี และนำเงินได้พึงประเมินนั้นเข้ามาในประเทศไทยในปีภาษีดังกล่าวหรือในปีภาษีต่อ ๆ มาภายหลัง มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากแหล่งเงินได้ต่างประเทศ ซึ่งครอบคลุมทุกแหล่งเงินได้ไม่เจาะจงเฉพาะแค่การลงทุนหุ้นแต่อย่างใด

  หน่วยงานที่ตรวจสอบ

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด