ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทหารสูงสุด) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ผอ.ปชด.) เตรียมลงนามในคำสั่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านทางบก-ทางทะเล-ทางท่าอากาศยานและคลังสินค้า โดยจัดโครงสร้างเป็นหน่วยเฉพาะกิจ (ฉก.) 3 ชุด เพื่อสนับสนุนภารกิจป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีในการตั้ง ศอ.ปชด. โดยมีเหล่าทัพรับผิดชอบ รวมทั้งการตั้ง ฉก.88 ในภารกิจปราบปรามการค้ามนุษย์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับผิดชอบ
ซึ่งคำสั่งดังกล่าวเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (คณะกรรมการ ปชด.) ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ที่มีรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม ซึ่งเห็นชอบให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจรับผิดชอบ การแก้ไขปัญหาภัยคุกคามเฉพาะด้าน อาทิ ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจด้านยาเสพติดทางบก ทางทะเล ทางท่าอากาศยานและคลังสินค้า (ฉก.331 , ฉก.332 และ ฉก.333) หลังพบการลักลอบขนยาเสพติดโดยใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่ 3 ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ หลังทางการไทยเก็บข้อมูลประกอบกับข้อมูลจากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC)
ทั้งนี้ กองบัญชาการทหารสูงสุด จะจัดตั้งกองบังคับการควบคุมการปฏิบัติการฯ ( บก.ควบคุม) โดยมีศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล (ศตก.) เป็นแกนหลัง เพื่อเตรียมพร้อมสนับสนุนภารกิจของ ศปฉ. เพราะในบางภารกิจต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ ชำนาญการในการตรวจจับ การเฝ้าระวัง ติดตาม และมาตรการด้านการข่าว โดยการสนธิกำลังจากเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แก่ ชุดปฏิบัติการพิเศษ จากกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ,ชุดปฏิบัติการพิเศษจากกองพลรบพิเศษที่ 1 นสศ. และ ชุดปฏิบัติการพิเศษจากหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) กองเรือยุทธการ ทร. หรือ มนุษย์กบ หน่วยซีล รวมถึงชุดปฏิบัติการพิเศษคอมมานโดของกรมอากาศโยธิน (อย.) ที่พร้อมสนับสนุนในกรณีร้องขอ เป็นต้น
